กระเนื้อ คือ อะไร กำจัดยังไง จี้ออก หรือ เลเซอร์ ที่คลินิกไหนดี [ตอบทุกปัญหา ที่นี่]
กระเนื้อ
กระเนื้อเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ แต่เมื่อจะพูดถึงปัญหาผิวพรรณหรือความงามบนใบหน้าแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงภาพ ผิวหน้าที่ดูใส ผิวเด้ง ไม่มีสิว ไม่มีฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือ ใบหน้าดูเด็ก อ่อนเยาว์ ไม่มีริ้วรอยยับรอยย่น และ ดังนั้น โดยมากคนทั่วไปก็มักจะให้ความสำคัญเพียงแค่เรื่อง สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และ ริ้วรอย
จริงๆแล้ว มีปัญหาของผิวพรรณอยู่อย่างหนึ่ง ที่เรามักไม่ได้สังเกตุหรือให้ความสำคัญน้อยมากๆ แต่หารู้ไม่ ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้ ผิวหน้าของเรา ดูไม่เรียบเนียน ดูขรุขระ ดูไม่ค่อยสะอาด ทาแป้งไม่ติดหน้า และ คนที่เป็นก็อาจลืมสังเกตุว่า ตัวเราเองนั้นกำลังเป็นอะไร คือ รู้สึกว่าเวลาเอามือลูบหน้าแล้วหน้าสากๆ บางคนเข้าใจผิดว่าเป็น “สิว” เลยพยายามที่จะแคะ แกะ แต่มันก็ไม่หายไปสักที ซึ่ง เจ้าตัวการที่สร้างปัญหานี้ คือ กระเนื้อ นั่นเองค่ะ
สารบัญ
ทำไมจึงควรทำความเข้าใจ “กระเนื้อ”
กระเนื้อ เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยมาก แค่บางทีเราอาจลืมสังเกตุไป โดยปกติจะพบในผู้ที่ผิวเริ่มมีการเสื่อมสภาพ ไม่ว่าจะเป็นจาก อายุที่เพิ่มขึ้น การโดนแสงแดด และ นอกจากนี้มักเกิดช่วงตั้งครรภ์อีกด้วย เพราะผู้หญิงมีครรภ์จะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ถึงแม้กระเนื้อไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง แต่จะมีผลต่อความสวยงามแน่นอน มากไปกว่านั้น มันไม่สามารถหายได้เอง ถ้าใครที่ต้องการ กำจัดกระเนื้อ ออกไป ในปัจจุบัน มีวิธีที่รักษากระเนื้อได้ง่ายมากๆค่ะ
กระเนื้อ คือ อะไร ?
กระเนื้อ คือ เนื้องอกของผิวหนังชนิดหนึ่ง แต่อย่าเพิ่งตกใจกลัวกันไปซะก่อนนะคะ เพราะเนื้องอกชนิดนี้ไม่ใช่เนื้อร้าย มันจะมีลักษณะเป็นตุ่มหรือติ่ง สีน้ำตาล มักพบมาก บริเวณ ใบหน้า ลำคอ หน้าอก ไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ ดังนั้นก็คงไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย แต่ยังไงก็ตาม มันอาจสร้างความรำคาญกาย และ สำคัญที่สุดคือ รำคาญใจด้วยเพราะมันดันไปกระทบเรื่องความสวยงามเต็มๆ
กระเนื้อ เกิดจากอะไร ?
ตามงานวิจัยและหลักวิชาการ เราพบว่า ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดกระเนื้อที่แท้จริง แต่การเกิดกระเนื้อมักมีความเกี่ยวข้องกับ
- กรรมพันธุ์ในครอบครัว คนที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นกระเนื้อ จะมีโอกาสเป็นกระเนื้อได้ง่ายกว่าปกติ
- อายุที่มากขึ้น แทบจะทุกคน พออายุเริ่มมากขึ้น วัย 30 อัพ มักจะมี กระเนื้อ อาจมากบ้างน้อยบ้าง ยิ่งพอเข้าสู่วัยสูงอายุมากขึ้นไป มักจะเห็น กระเนื้อขนาดใหญ่ขึ้น กระมีปริมาณมากขึ้น และ กระมีสีเข้มขึ้นชัดเจน
- แสงแดด ตัวการสำคัญที่มักส่งผลต่อผิวหนังมนุษย์เรา การโดนแสงแดดจ้าเป็นเวลานานๆและสะสมจึงทำให้เรามักเห็นกระเนื้อขึ้นในบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อยๆนั่นเอง บริเวณดังกล่าวก็ได้แก่ ใบหน้า ลำคอที่เสื้อปิดไม่ถึง หลังคอ แขนด้านนอก เป็นต้น
- ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงตั้งครรภ์
- กระเนื้อในบางคน เกิดต่อเนื่องจากการที่เคยมีกระแดด (Solar Lentigo) ซึ่ง กระแดด คือ กระที่มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล ลักษณะแบน ต่อมา สามารถขยายใหญ่ขึ้นเป็นกระเนื้อแบบตุ่มนูน ได้ค่ะ
ลักษณะของกระเนื้อ
กระเนื้อโดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะให้สังเกตุได้ดังนี้ค่ะ
- มีลักษณะเป็น ตุ่มกลม หรือ วงรีนูนขึ้นมา จากผิวหนัง (คล้ายๆมีก้อนดินน้ำมันแปะผิว)
- สี อาจเป็นสีเดียวกับผิวหนัง น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม หรือสีดำก็ได้
- ขนาด มีตั้งแต่ จุดเล็กๆไปจน ใหญ่ ถึง เซนติเมตรได้เลย
- ผิวสัมผัสของตุ่ม อาจเป็น แบบเรียบ หรือ ขรุขระ ก็ได้
- ขึ้นในตำแหน่งที่มักโดนแดด ที่พบบ่อยคือ ใบหน้า ลำคอ หลังคอ แขนด้านนอก ไหล่ มีส่วนน้อยขึ้นในร่มผ้า
- ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ ไม่คัน ไม่เจ็บ อาจมีส่วนน้อย คัน หรือ ระคายเคืองได้
อันตราย และ ความรุนแรง จากการเป็น กระเนื้อ
กระเนื้อ เป็น “เนื้องอกผิวหนัง” ที่ไม่ใช่แบบเนื้อร้าย ฉะนั้นถ้าปล่อยทิ้งไว้ ก็ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายใดๆค่ะ ปลอดภัยมาก สบายใจได้ แต่อย่างไรก็ตาม บางราย เมื่อดูจากประวัติแล้วลักษณะไม่ชัดเจน กระเนื้อจะมีอาการคล้ายกับโรคผิวหนังบางโรค มีทั้งแบบ เนื้องอกปกติ และ ชนิดมะเร็ง แต่ถึงถ้าเป็นมะเร็งมักจะเป็นชนิดที่ ไม่ลุกลาม รักษาได้ค่ะ จึงควรให้แพทย์วินิจฉัยอีกที ซึ่ง กระเนื้อก็จะมีรูปแบบต่างๆที่มักจะมีภาวะคล้ายๆกัน ได้แก่
- หูดที่ผิวหนัง เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma virus โดยชนิดที่พบบ่อย คือ จะเป็นตุ่มกลมแข็ง ผิวหยาบขรุขระ สีเทาเหลืองหรือน้ำตาล
- ไฝ คือ การรวมกลุ่มกันของเซลล์ไฝ แล้วเพิ่มจำนวนขึ้นทั้งที่ผิวหนังชั้นตื้นและลึก ทำให้มีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิวหนัง มีหลายชนิด ตั้งแต่ไม่มีสี จนถึง สีน้ำตาลหรือสีดำ ส่วน “ขี้แมลงวัน” ในทางการแพทย์จัดว่าเป็น “ไฝ” อย่างหนึ่ง แต่จะไม่นูนขึ้นมาจากผิวหนัง อยู่แค่ในชั้นผิวหนังตื้นๆ มีสีน้ำตาลหรือดำเข้ม
- มะเร็งผิวหนังบางชนิด เช่น มะเร็งเยื่อบุผิวหนัง ชนิดสแควมัสเซลล์ (Squamous cell carcinoma) มะเร็งผิวหนังกลุ่มแบซัลเซลล์ (Basal cell carcinoma) ซึ่งอาจสังเกตง่ายๆ ตุ่มนั้นจะโตอย่างรวดเร็ว มีอาการเจ็บ เป็นแผล มีเลือดออกจากก้อน รูปร่างของก้อนเปลี่ยนไปจากเดิม แนะนําให้พบแพทย์เพื่อช่วยวินิจฉัย ซึ่งอาจต้องมีการตัดชิ้นเนื้อทางผิวหนังส่งตรวจต่อไปค่ะ
ติ่งเนื้อ กับ กระเนื้อ ต่างกันอย่างไร ?
กระเนื้อ และ ติ่งเนื้อ เป็นกลุ่มอาการเนื้องอกทางผิวหนังที่ลักษณะคล้ายๆกัน และ มีวิธีการรักษาเหมือนกัน แต่การวินิจฉัย มีความแตกต่างกันตรงที่
- กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis) จะมีลักษณะเป็น ตุ่มนูน มักขึ้นตามบริเวณที่ผิวโดนแดด เช่น ใบหน้า ต้นคอ หน้าอก หลังแขน
- ติ่งเนื้อ (Skin Tag) จะมีลักษณะเป็นตุ่มที่ยื่นออกจากผิวหนัง โดยที่จะมีก้านเล็กตรงโคน ซึ่งตรงนี้จะเป็นส่วนที่เอาไว้แยกความต่างจากกระเนื้อ โดยติ่งจะชอบขึ้นตำแหน่งที่ผิวมีการเสียดสี เช่น เปลือกตา ซอกรักแร้ ซอกราวนม และ มักจะเกิดในคนอ้วนได้บ่อยกว่า
กระเนื้อ กลายเป็น มะเร็ง ได้หรือไม่
ตามที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า กระเนื้อ เป็นเนื้องอกผิวหนังที่ไม่อันตราย อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่จะกลายเป็นมะเร็งได้ แต่ก็ถือว่าโอกาสในการเกิดน้อยมากๆค่ะ
ซึ่งถ้าอาการเป็นแบบ กระเนื้อทั่วไป คือ เป็นเพียงตุ่มเนื้อหลายๆตุ่มขึ้นกระจาย ขนาดไม่โตเร็วทิ้งไว้เป็นปีถึงค่อยขยายใหญ่ขึ้น ไม่มีอาการเจ็บ ไม่มีเลือดออก ถือว่าปกติค่ะ ไม่ต้องกังวลเลย
ปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้มีปัญหา กระเนื้อ
ส่วนใหญ่ปัญหาของคนที่เป็น กระเนื้อ จะเป็นเรื่องของ ความสวยงาม รูปลักษณ์ภายนอก เพราะมันจะทำให้ผิวดู ขรุขระ ผิวไม่เรียบ ผิวดูไม่สะอาด แต่ในบางคน(ซึ่งถือว่าส่วนน้อยมาก) อาจมีอาการคัน หรือเจ็บ หรือ แดงมากขึ้น ซึ่งสามารถพบแพทย์เพื่อให้ยาต้านอักเสบได้ค่ะ
การป้องกันการเกิดกระเนื้อ
เนื่องจาก กระเนื้อยังไม่มีการพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดถึงสาเหตุการเกิดและที่มา แต่ปัจจัยเสี่ยง ที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ การโดนแสงแดด เช่น สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือ สวมหมวก หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด และ ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน โดยครีมกันแดดที่มี SPF 50 เป็นอย่างน้อย เพื่อปกป้องผิวไม่ให้เกิดกระเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
กระเนื้อ หายไปเองได้หรือไม่
กระเนื้อ ไม่สามารถหายได้เองนะคะ ส่วนใหญ่จะใช้การติดตามอาการไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามีอาการจากกระเนื้อ หรือ กังวลใจเรื่องความสวยงาม ก็สามารถรักษาได้ง่ายๆ
ซื้อ ครีมรักษา กระเนื้อ ยากำจัด ติ่งเนื้อ มาใช้เองดีไหม ?
อันดับแรก ก่อนที่จะซื้อ ยากำจัดกระเนื้อ หรือ ยำกำจัดติ่งเนื้อ มาใช้เอง ควรดูให้แน่ใจก่อนว่า ตัวเรา เป็น กระเนื้อ ติ่งเนื้อ หรือ เนื้องอกผิวหนัง แบบอื่น ถ้า ดูจนแน่ใจแล้วว่า ใช่ และ ต้องการแต้มรักษาเอง ควรทราบก่อนว่า ตัวยาที่นำมาใช้แต้มกระเนื้อ ติ่ง หรือ เนื้องอก นั้น มีคุณสมบัติเป็น “กรด” ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนจึงใช้ทำลายเนื้อเยื่อนั้นได้ แต่!!… ถ้าแต้มไม่ถูกวิธี หรือ เผลอใช้น้ำยามากไป หรือไม่ก็ แต้มแล้วน้ำยาไปโดนผิวที่ปกติ อาจจะยิ่งทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ตามมาได้ คือ เป็นแผล นั่นเอง ในบางคนก็อาจจะรุนแรงถึงกับกลายเป็นแผลติดเชื้อ และตามมาด้วยการเป็น แผลเป็น ตามมาภายหลังได้ค่ะ ซึ่งถ้ากรณีเป็นรุนแรง อาจทิ้ง แผลเป็นแบบนูน หรือ แผลคีรอยด์ ที่จะรักษาได้ยาก ฉะนั้นถ้าดูตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนี้แล้ว หมอแนะนำว่าให้รักษาโดยแพทย์จะปลอดภัยกว่าค่ะ
วิธีรักษากระเนื้อทางการแพทย์
สามารถรักษาได้ทุกบริเวณของร่างกาย ทั้ง กระเนื้อที่เปลือกตา กระเนื้อบนใบหน้า กระเนื้อที่คอ มีวิธีรักษาหลายวิธี คือ
- การรักษากระเนื้อด้วยเลเซอร์ เลเซอร์กระเนื้อ ที่นิยม คือ co2 laser โดยหลักการของเลเซอร์คือจะไปทำลายและตัดกระนื้อออก ก่อนทำ จะมีการทายาชาบริเวณที่จะเลเซอร์ 30-45 นาที หรือ บางจุดขนาดใหญ่ อาจใช้การฉีดยาชาด้วย เพื่อทำให้ระหว่างรักษา จะไม่รู้สึกเจ็บเลย
- การแต้มกระเนื้อด้วยน้ำยาเคมี กำจัดกระเนื้อโดยใช้น้ำยา TCA หรือ Trichloroacetic Acid ซึ่งน้ำยาเคมีชนิดนี้ต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
- การจี้กระเนื้อด้วยไฟฟ้า เป็นการใช้เครื่องจี้กระ (Electrocautery) จี้และตัดเอาเนื้อออก โดยก่อนทำจะมีการแปะยาหรือฉีดยาชาเหมือนการทำเลเซอร์เพื่อกำจัดกระเนื้อให้หลุดออก
- การจี้กระเนื้อด้วยความเย็น (Cryosurgery) เป็นการใช้ไนโตรเจนเหลวแช่แข็งไปทำลายเนื้อเยื่อที่ผิดปกติออก แต่อาจไม่ได้ผลดีกับ กระเนื้อที่มีลักษณะนูน
- การขูดกระเนื้อออก (Curettage) การขูดเอาเนื้อเยื่อที่เป็น กระเนื้อ ออก โดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ เรียกว่า Curettage เพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นบางหรือเรียบลง โดยอาจใช้ควบคู่กับวิธีการผ่าตัดด้วยความเย็นจัด หรือ การจี้กระเนื้อด้วยไฟฟ้า
วิธีรักษา กระเนื้อ ที่เปลือกตา
ด้วยความที่ตำแหน่งเปลือกตา เป็นบริเวณที่ใกล้ตา จึงค่อนข้างเสี่ยงที่การรักษาอาจมีผลข้างเคียงต่อดวงตาได้ ฉะนั้นวิธีการรักษาที่ต้องใช้สารเคมีในการจี้ คือ กำจัดกระเนื้อโดยใช้น้ำยา TCA หรือ Trichloroacetic Acid นั้น จึงถือว่าไม่ค่อยปลอดภัย เพราะถ้าน้ำยามีการกระเด็นเข้าตา จะทำให้กระจกตาบาดเจ็บแบบรุนแรงได้เลยค่ะ
หมอจึงแนะนำวิธีการรักษาที่ปลอดภัย และนิยม ได้แก่
- การใช้เลเซอร์กระเนื้อ คือ CO2 เลเซอร์นั่นเอง เลเซอร์ชนิดนี้ เวลายิงเพื่อรักษานั้น ลำแสงจะเดินทางเป็นเส้นตรงไปโดนเฉพาะเนื้อเยื่อกระ เท่านั้น ไม่มีไปโดนที่บริเวณอื่น และระหว่างทำ จะต้องมีการหลับตา หรือใช้อุปกรณ์ช่วยปิดตา จึงทำให้ปลอดภัยค่ะ และส่วนใหญ่นั้น กระเนื้อบริเวณเปลือกตา ขนาดมักไม่ใหญ่มาก ทำให้ใช้เวลาในการยิงเลเซอร์ไม่นาน สามารถทำได้ง่ายค่ะ
- ใช้เครื่องจี้กระ (Electrocautery) จี้ออก ก็ถือเป็นอีกวิธีที่นิยม และทำได้ไม่ยากเช่นกันค่ะ
วิธีรักษา กระเนื้อ บนใบหน้า
กระเนื้อบนใบหน้า เป็นตำแหน่งที่ทำให้คนไข้มาพบแพทย์บ่อยที่สุด เพราะมีผลต่อความสวยงาม ทำให้หน้าดูไม่เรียบ คล้ายคนเป็นสิว และถือว่ารักษาไม่ยากเลยค่ะ วิธีรักษาได้แก่
- ใช้เลเซอร์จี้กระเนื้อ คือ CO2 เลเซอร์ จี้ออก ซึ่งมีข้อดีคือ การใช้เลเซอร์จะค่อนข้างมีความแม่นยำ(ถ้ามีการตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสม และ ยิงตรงจุด) ไม่ค่อยทำลายเนื้อเยื่อปกติบนใบหน้า จึงทำให้หลังจากทำแล้วแผลจะสวย และมีรอยแผลเป็นหลังทำได้น้อย และสามารถรักษาได้ทุกแบบทั้งกระเนื้อแบบแบน แบบนูน ขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ใช้
- น้ำยาเคมีแต้มออก คือ น้ำยา TCA หรือ Trichloroacetic Acid ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่จะเหมาะกับกระเนื้อที่ขนาดเล็ก หรือ ชนิดที่ยังไม่นูน
- การจี้กระเนื้อด้วยไฟฟ้า เป็นการใช้เครื่องจี้กระ (Electrocautery) จี้ เป็นอีกวิธีที่นิยม แต่อาจต้องระวังเรื่องมีโอกาสที่การจ้ จะไปโดนเนื้อเยื่อปกติ ทำให้เป็นรอยแผลเป็นชัด หลังจี้ไปแล้ว
วิธีรักษา กระเนื้อ ที่คอ
กระเนื้อที่คอ มักจะขึ้นพร้อมๆกับกระเนื้อที่ใบหน้า และ อาจมีติ่งเนื้อ (Skin Tag) คือจะมีลักษณะโคนเล็กกว่าตรงปลาย ปะปนกันด้วย ซึ่งการรักษาก็ทำได้ไม่ยาก วืธีรักษามีดังนี้ค่ะ
- การใช้เลเซอร์กระเนื้อ คือ CO2 เลเซอร์ สามารถจี้ออกได้ทั้ง กระเนื้อ และติ่งเนื้อ โดยที่จะมีการทำลายเนื้อเยื่อปกติได้น้อย จึงทำให้โอกาสเป็นรอยแผลเป็นน้อยกว่า
- การจี้กระเนื้อด้วยไฟฟ้า เป็นการใช้เครื่องจี้กระ (Electrocautery) จี้กระเนื้อให้หลุดอกไป เป็นอีกวิธีที่นิยม
- ใช้น้ำยาเคมีแต้มออก คือ น้ำยา TCA หรือ Trichloroacetic Acid จะไม่ค่อยนิยม เพราะกระเนื้อที่คอมักจะเป็นชนิดนูน และขนาดใหญ่ขึ้น ถ้าใช้น้ำยาจี้ออก อาจเคลียร์ได้ไม่หมดค่ะ
คลินิก รักษากระเนื้อ ที่ไหนดี
ก่อนที่จะตัดสินใจว่า รักษากระเนื้อ ที่ไหนดี แนะนำให้พิจารณาจาก
- ข้อมูลเบื้องต้นของ คลินิก ที่เราจะเข้าไปรักษากระเนื้อ ต้องดูมีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาติประกอบการสถานพยาบาลชัดเจน
- แพทย์ ดูมีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการดูแล เช่น การทำเลเซอร์กระเนื้อ ต้องอาศัยประสบการณ์ในการรักษาเพื่อให้ผลการรักษาที่ดี ปลอดภัย
- เครื่องมือเฉพาะทาง ที่ดูมีมาตรฐาน เพราะ อย่างเช่น การทำเลเซอร์กระเนื้อให้ได้ผลดีนั้น เครื่องมือที่ทำการรักษา เป็นตัวแปรสำคัญต่อผลการรักษาที่ดีค่ะ
- รีวิว การรักษากระเนื้อต่างๆ ต้องมี มีผลตอบรับการรักษาจากคนไข้ที่รักษากระเนื้อกับที่นั่นจริงๆ จะพอช่วยเป็นข้อมูลให้เรามั่นใจและตัดสินใจง่ายขึ้น
การดูแลรักษา กระเนื้อ และ โปรโมชั่น ที่ กัญวราคลินิก
การรักษากระเนื้อที่กัญวราคลินิก ใช้วิธี เลเซอร์ด้วยเครื่อง CO2 Laser โดยอาศัยหลักการ คือ ลำแสงเลเซอร์จะเข้าไปทำให้เกิดอุณหภูมิสูงขึ้น จนเกิดการไหม้ของเซลล์ที่ต้องการกำจัดออก (เฉพาะเซลล์ของกระเนื้อที่เราไม่ต้องการ) และยังไปทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด (Coagulation) ในหลอดเลือดขนาดเล็กใต้ผิวหนัง ทำให้สามารถ กำจัดกระเนื้อออกได้ดี มีความแม่นยำ สร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อโดยรอบน้อยมาก และ หลัง เลเซอร์กระเนื้อ แผลจะมีเลือดออกน้อย หรือ แทบจะไม่มีเลือดออกเลย จึงไม่ต้องทำการเย็บแผล และ แผลสามารถโดนน้ำได้ ผู้เข้ารับการรักษาจึงใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ขั้นตอนการทำเลเซอร์ เป็นอย่างไรบ้าง
- พบแพทย์เพื่อวินิจฉัยก่อน ว่า เป็น กระเนื้อ ติ่งเนื้อ หรือ เนื้องอกรูปแบบอื่น
- ทำความสะอาดผิว และ แปะยาชาบริเวณกระเนื้อที่ต้องการกำจัดออก ประมาณ 30-45 นาที
- เมื่อครบเวลายาชาแล้ว แพทย์จะทำเลเซอร์กระเนื้อนั้นออก โดยระหว่างทำจะมีความรู้สึกจี๊ดๆที่ผิวเล็กน้อย ไม่ถึงกับเจ็บ แต่ถ้ารู้สึกมาก สามารถแจ้งแพทย์ได้ค่ะ ระยะเวลาที่ใช้ทำประมาน 15-30 นาที
- หลังเลเซอร์กระเนื้อเรียบร้อยแล้ว จะทายาที่แผลให้หลังทำ และ แปะพลาสเตอร์ให้ในจุดที่มีเลือดซึม
การปฏิบัติตัวหลังทำเลเซอร์กระเนื้อ
- ในบริเวณที่ทำการกำจัดกระเนื้อออกไปแล้วนั้น ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำนานๆ และ การโดนสบู่หรือเจลล้างหน้าโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 48-72 ชม. แรก เนื่องจากแผลยังไม่แห้งดี
- ทายาฆ่าเชื้อที่คลินิกจัดให้ บริเวณแผลที่เลเซอร์กระเนื้อออกไปแล้วนั้น วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น พ
- อครบ 48-72 ชม. แล้วแผลจะเริ่มแห้ง สามารถโดนน้ำ ล้างหน้าด้วยสบู่ได้ตามปกติ แผลอาจ มีสะเก็ด ประมาน 2-7 วัน หลังทำเลเซอร์กระเนื้อไป ห้ามแคะ ห้ามแกะสะเก็ด เด็ดขาด ปล่อยให้มันหลุดออกเองตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็น
- ในช่วงแรกๆ อาจทิ้งรอยเป็นผิว สีชมพูๆ หรือ หลุมเล็กน้อย แนะนำทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำ และ ทาครีมลดรอยแผลเป็นต่อได้เลย
เลเซอร์กระเนื้อแล้ว หายเลยไหม
การทำเลเซอร์สามารถ กำจัดกระเนื้อ ได้เกือบ 100% ภายในครั้งเดียว อาจมีหลงเหลือจุดที่เล็กๆมากได้บ้าง แต่ก็เป็นจุดที่เห็นไม่ค่อยชัดค่ะ ถือว่า รักษาได้ง่าย และ ผลการรักษาดีทีเดียว
และ หลังรักษาด้วยการเลเซอร์กระเนื้อออกไปแล้ว ในคนที่มีแนวโน้มเป็นกระเนื้อง่าย มีโอกาสที่กระเนื้อจะกลับมา ค่อยๆมีมากขึ้นจนเห็นชัด ได้อีกที มันก็จะใช้เวลาประมาน 2 ปีขึ้นไปนู้นเลยค่ะ
สรุป กระเนื้อ อันตราย หรือ น่ากลัวไหม แล้ว ทำไมต้องรักษากระเนื้อ ที่ กัญวราคลินิก
กระเนื้อ เป็นเนื้องอกผิวหนังที่ไม่อันตราย ไม่น่ากลัว เพียงแค่มีผลต่อความสวยงาม และอาจมีอาการคัน พอให้รำคาญใจ คนไข้ทุกคนที่ได้รักษาโดยวิธีเลเซอร์ไปแล้ว จะพอใจผลการรักษามาก เพราะขั้นตอนรักษาไม่ยุ่งยาก ทำการรักษาหายภายในครั้งเดียว คุณภาพชีวิตดีขึ้นมาก เพราะสภาพผิวหลังจากเลเซอร์กระเนื้อไปแล้ว ดูเรียบเนียน สะอาดขึ้น
โดยการรักษาที่ กัญวราคลินิก
- ใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีมาตรฐาน พลังงานละเอียด ทำให้สามารถรักษาได้อย่างแม่นยำ และปรับความลึกได้เหมาะสม จึงไม่เสี่ยง ทิ้งรอยแผลเป็นน้อยกว่า
- ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ แพทย์ที่ กัญวราคลินิก มีประสบการณ์นับ 10 ปี ดังนั้นเรื่อง การกำจัดกระเนื้อโดยเลเซอร์ จึงเป็นเรื่องที่แพทย์ของเรามีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง
- ราคาในการรักษากระเนื้อ ที่กัญวราคลินิก การันตี ไม่แพง และ สมเหตุสมผล
รีวิวการรักษากระเนื้อที่กัญวราคลินิก
ขนาดไม่ใหญ่ | เริ่มต้น จุดละ 500-. บาท |
10 จุด | 3,000 บาท |
10-50 จุด | 5,000 บาท |
**ราคาเหมา ตามประเมิน
สำหรับใครที่อ่านข้อมูล แล้วมีปัญหาต้องการปรึกษาหมอ หรือสอบถามเพิ่มเติม
กัญวราคลินิก ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ใกล้กับซาฟารีเวิลด์ เดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ
- เปิดให้บริการ วันอังคาร ถึงศุกร์ 10.30-19.30 น.
- เสาร์ อาทิตย์ 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
ช่องทางติดต่อ ตามด้านล่างนี้นะคะ