ปัญหาผิวส่วนหนึ่งในใครหลาย ๆ คน คือ สิว (Acne) ซึ่งเป็นโรคผิวหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง เกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกช่วงวัย ซึ่งสิวเกิดจากการอุดตันของผิวหนัง โดยน้ำมันที่อยู่ในผิวหนังสร้างขึ้นมากกว่าปกติ จนเกิดการอุดตันในที่สุด และหากสิวมีอาการรุนแรง จะส่งผลให้เกิดการอักเสบหรือเป็นหนองได้
“สิวไม่มีหัว” คือ ?
สิวไม่มีหัว มีลักษณะเป็นเม็ดนูนขึ้นใต้ผิวหนัง ไม่มีหัวหนอง หัวดำหรือหัวขาว แต่จะคล้าย ๆ กับตุ่มนูนแดง มีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่สิวไม่มีหัวจะไม่ค่อยอักเสบมาก แต่หากไปบีบ แกะ เกาจนเลือดออก อาจอักเสบจนถึงขั้นรุนแรงและกลายเป็นแผลเป็นได้
สาเหตุการเกิด “สิวไม่มีหัว”
- ล้างหน้าไม่สะอาดพอ
- ความเครียด
- แพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้
- รับประทานอาหารรสจัด
- สภาพอากาศ ฝุ่นเยอะ อากาศร้อน
- แพ้สารเคมีจากยา
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
- กรรมพันธุ์
“สิวไม่มีหัว” หายเองได้ไหม ?
หากดูแลรักษาสะอาดและเหมาะสม รวมถึงปรับพฤติกรรมการกินให้ถูกวิธี สามารถหายเองและอาการดีขึ้นได้ ประมาณ 4-6 สัปดาห์
รักษา “สิวไม่มีหัว” อย่างไรดี ?
- รักษาด้วยยา
การรักษาสิวไม่มีหัวด้วยยา สามารถทำได้ 2 แบบ คือ แบบยาทา และ แบบยาทาน ซึ่งวิธีนนี้เหมาะกับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงมาก
- รักษาด้วยการเลเซอร์
เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ที่คลินิกรักษาสิวจะมีบริการเลเซอร์สิวที่เหมาะกับผู้ที่ใช้ยาแล้วไม่ได้ผล หรือเรียกว่า อาการดื้อยานั่นเอง แต่วิธีนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องเป็นผู้ดูแล จึงจะเห็นผลมากที่สุด
- รักษาด้วยวิธีธรรมชาติ
สามารถเรียกได้ว่าเป็นการพักหน้าเลยก็ได้ ซึ่งสิ่งที่ควรทำคือ คือการทำความสะอาดใบหน้าเป็นประจำ รวมถึงงดการ บีบ แกะ เกา เด็ดขาด เพื่อกันปัญหาสิวลามทั่วผิวหน้านั่นเอง
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอก็ช่วยลดการเลิดสิวได้เช่นกัน เนื่องจากการนอนไม่พอ ทำให้เกิดความเครียด จนทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักเกินไปได้ ดังนั้นควรพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำ
การดื่มน้ำ ไม่ได้ช่วยดูแลแค่ผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังดูแลผิวหน้าได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งน้ำจะช่วยให้ร่างกายขับสารตกค้างออกไปจนหมด ทำให้รู้สึกสดชื่น และลดการเกิดของสิวเช่นกัน
- ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
หากเป็นคนผิวแพ้ง่ายหรือหน้ามันง่าย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อกันปัญหาการอุดตันของสิว
อย่างไรก็ตาม การรักษาสิวไม่มีหัว อาจต้องพิจารณากับสาเหตุและความรุนแรงของสิวนั้น ๆ หากสิวที่ไม่มีหัวมีความรุนแรงหรืออักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อรับคำปรึกษาและการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิว โดยบางกรณีอาจใช้เพียงแค่ยา หรือจะรักษาสิวกับทางคลินิกเพื่อช่วยการรักษาที่ตรงจุด และป้องกันการเกิดสิวไม่มีหัวไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำได้