การฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์คืออะไร มีผลกระทบอะไรหลังฉีดไหม
ปัจจุบันมีการรักษาโดยใช้ฟิลเลอร์เพื่อจัดการกับปัญหาริ้วรอยที่เป็นร่องลึกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร่องใต้ตา ร่องแก้ม ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่คนไข้มักกังวลใจค่ะ เพราะว่าทำให้ใบหน้าเราดูมีอายุ ดูอิดโรย ไม่สดใส อีกทั้งการดูแลด้วยการทาครีมบำรุงไม่สามารถช่วยได้ การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและได้นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเห็นผลชัดเจนและปลอดภัยค่ะ
สวัสดีค่ะ หมอชื่อ หมอเหมี่ยว พญ.กัญวรา นวอนุรักษ์ แพทย์ประจำกัญวราคลินิก หมอจะมาให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับฟิลเลอร์ว่า ฟิลเลอร์คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง ใครที่เหมาะกับการเติมฟิลเลอร์ ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง ฟิลเลอร์ที่ดีควรเป็นอย่างไร ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน สลายหมดหรือไม่ค่ะ
สารบัญ
ฟิลเลอร์คืออะไร
ความหมายของฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มชนิดนึงค่ะ ในทางทฤษฎีสามารถแบ่งฟิลเลอร์ได้หลายชนิดเลยค่ะ แต่ฟิลเลอร์ที่คุณสมบัติดีที่สุด ผลข้างเคียงน้อยที่สุด ปลอดภัย และผ่าน อย.ไทย มีชนิดเดียว คือ HA Filler (Hyarulonic acid filler)
ฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง
Filler ช่วยแก้ปัญหา “ร่องลึกแห่งวัย” ได้ทั่วใบหน้าเลยค่ะ ทั้งร่องแก้ม ร่องลึกใต้ตา ร่องน้ำหมาก ช่วยเก็บงานผิวชั้นบนให้ริ้วรอยตื้นๆบางจุดดีขึ้น เช่น หางตา รอบริมฝีปาก และนอกจากนี้ยังช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าให้มีมิติได้อีกด้วยค่ะ
ใครบ้างที่เหมาะกับการเติมฟิลเลอร์
- คนที่มีปัญหาร่องลึกบริเวณต่างๆ เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ร่องน้ำหมาก หลังเติมฟิลเลอร์ไปแล้วร่องจะตื้นขึ้น ใบหน้าจะดูเต็ม ไม่อิดโรยค่ะ
- คนที่อายุเริ่มมากขึ้นแล้วไขมันบนใบหน้าหายไป ซึ่งมักจะพบในคนที่โครงหน้าไม่ค่อยมีไขมัน หรือหน้าตอบค่ะ ตำแหน่งที่มักมีปัญหา คือ ขมับ หน้าแก้ม (หรือที่เรียกว่าแก้มส้มนั่นเองค่ะ) ซึ่งบางทีมักจะเป็นจุดที่คนไข้เองไม่ได้สังเกตเห็น แต่ถ้าได้เติมฟิลเลอร์แล้ว จะรู้สึกว่าใบหน้าดูมีมิติ และเด็กลงทันตาเลยค่ะ
- คนที่อยากปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน มีมิติมากขึ้น เช่น เติมคาง
- คนที่มีปัญหาเรื่องผิวชั้นบนมีริ้วรอยเล็กๆ เช่น รอบปาก เนื้อริมฝีปาก ริ้วรอยร่องลึกหน้าผาก (ที่ฉีดโบท็อกแล้วยังหายไม่หมด) หรือแม้กระทั่งอยากให้ผิวทั่วหน้าดูสดใส ผิวกระชับ ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ เหมือนเป็นการเก็บงานผิวที่ดีอีกทางหนึ่งเลยค่ะ
ปัจจัยที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วผลลัพธ์ดีที่สุด
คนไข้ทุกคนล้วนมีความคาดหวังว่าฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วจะทำให้ตัวเองสวยดูดีขึ้น มั่นใจ มีใบหน้าอ่อนเยาว์ในแบบที่ตัวเองต้องการใช่มั้ยคะ สิ่งคัญที่มีผลคือ
1.ฟิลเลอร์ที่ใช้
การเลือกผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับปัญหาแต่ละคนค่ะ เพราะฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อหลายเทคโนโลยีผลิต ในแต่ละยี่ห้อก็จะมีหลายรุ่นอีกค่ะ แต่ละรุ่นคุณสมบัติก็จะต่างกันไป ส่วนปัญหาของคนไข้เองก็จะมีลักษณะผิวและโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างกัน หมอจะขอยกตัวอย่างง่ายๆนะคะ
- คนไข้ที่มีปัญหาร่องแก้มถ้าเกิดจากกระดูกใต้ตายุบและกระดูกร่องแก้มยุบ ทำให้เนื้อช่วงหน้าแก้มหย่อนลงมากอง ตรงร่องแก้ม เห็นร่องแก้มชัดขึ้น
- อีกเคสมีปัญหาร่องแก้มเป็นริ้วร่องจากที่ผิวแห้งขาดน้ำ
คนไข้ 2 เคสนี้จะฉีดฟิลเลอร์คนละชนิดกัน คนแรกต้องฉีดฟิลเลอร์ชนิดที่ช่วยยกผิวชั้นลึกได้ดีค่ะ ส่วนคนหลังต้องฉีดฟิลเลอร์ที่เก็บงานผิวชั้นบนเนื้อกลืนกับผิวได้ดีไม่เป็นก้อนค่ะ
2.แพทย์ผู้ฉีด
การฉีดฟิลเลอร์ต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญ ความเชี่ยวชาญ ฝีมือในการฉีดค่ะ เพราะแม้ฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แต่แพทย์ต่างคนกัน ผลที่ได้ก็ต่างกันด้วยค่ะ
ความพิเศษของการทำฟิลเลอร์ที่กัญวราคลินิก
นอกจากการที่หมอปราถนาให้คนไข้ทุกคนประทับใจในผลลัพธ์ใบหน้าสวยอ่อนเยาว์ และความปลอดภัยจากการฉีดแล้ว ที่กัญวราคลินิกนั้นยังคำนึงถึง
1.ความสบายใจของคนไข้
เริ่มจากตอนปรึกษาปัญหา หมอจะรับฟังสิ่งที่คนไข้กังวลและพูดคุยแนะนำให้คนไข้เข้าใจถึงผลที่ได้อย่างตรงไปตรงมา พูดคุยเรื่องงบประมาณที่อาจต้องใช้ในแต่ละกรณี และท้ายสุดจะให้คนไข้เลือกตัดสินใจในส่วนงบประมาณเอง โดยไม่ยัดเยียดค่ะ
2.ความเอาใจใส่ที่คนไข้ได้รับ
หมอจะค่อยๆ ประเมินใบหน้า ค่อยๆ ฉีด ให้คนไข้ส่องกระจกดูผลลัพธ์ที่ทำเป็นระยะๆ ตอนฉีด คนไข้ท่านไหนกลัวเจ็บจะแปะยาชาก่อนและประคบน้ำแข็งตามจุดที่ฉีดเพื่อให้รู้สึกเจ็บน้อยที่สุดค่ะ หลังทำถ้าคนไข้ท่านไหนแนวโน้มจะช้ำหรืออักเสบง่าย จะมีการให้ทานยาเพิ่มโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีการติดตามเคสทุกเคสค่ะ
ผลข้างเคียงฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นการรักษาชนิดนึงเหมือนกับการทานยาบางชนิด เพราะฉะนั้นอาจเกิดผลข้างเคียงได้ในบางคนค่ะ หมอจะขอแบ่งกลุ่มผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นเป็น 2 แบบนะคะ คือ แบบทั่วไปและแบบที่พบน้อย
1.ผลข้างเคียงทั่วไป
เป็นอาการที่เกิดได้เป็นปกติในคนไข้ส่วนน้อย ไม่ใช่ทุกคนนะคะ และอาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นเองภายใน 1-2 สัปดาห์ ได้แก่ บวมแดง คัน มีรอยเข็ม ปวดตึง แต่อย่างไรก็ตามหลังจากคนไข้เติมฟิลเลอร์ไป ทางคลินิกจะมีการติดตามอาการเพื่อแนะนำข้อมูลที่ถูกต้องกับคนไข้ทุกคนค่ะ
2.ผลข้างเคียงที่พบน้อยมากๆ
ได้แก่ ติดเชื้อ แพ้อักเสบ ผลต่อเส้นเลือด ซึ่งหมอไม่อยากให้คนไข้ถึงกับกลัวจนไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์นะคะ เพราะโอกาสเกิดผลข้างเคียงแบบนี้ถือว่าน้อยมากๆ หรือแทบไม่ค่อยเจอเลยค่ะ ถ้าฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้
ฟิลเลอร์ที่ดีควรเป็นอย่างไร
สำคัญที่สุด คือ ฟิลเลอร์ต้อง ผ่าน อย.ไทย ค่ะ คือ นำเข้ามาโดยบริษัทตัวแทนนำเข้าของแต่ละยี่ห้อเท่านั้น เพราะปัจจุบันมีฟิลเลอร์ให้เลือกมากมาย แม้กระทั่งในอินเตอร์เนท โดยไม่ทราบแหล่งที่มาแน่นอน ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกับของแท้มากแต่ผลิตจากที่อื่น แบบนี้หมอคิดว่าไม่ปลอดภัยมากๆค่ะ
สำหรับฟิลเลอร์แท้นั้น ไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหนที่ดีที่สุด จนสามารถฉีดได้ทุกบริเวณบนใบหน้าและทุกสภาพผิวของคนไข้ ทุกครั้งก่อนการรักษา หมอจะต้องเป็นคนประเมินคนไข้ที่มาพบหมอว่า ปัญหาผิวของเราเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน และเหมาะกับรุ่นใดบ้างค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์ ในปัจจุบันจะอยู่ได้ 6 เดือน ถึง 2 ปี ระยะเวลาอาจมากขึ้นหรือน้อยลงได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1.ชนิดของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ไม่ได้หมายความว่าฟิลเลอร์ชนิดรุ่นที่อยู่ได้นานที่สุด จะแปลว่าดีที่สุดนะคะ หมอขออธิบายคร่าวๆก่อนค่ะ คือ
- ฟิลเลอร์รุ่นที่อยู่ได้นานมักจะมีโมเลกุลที่ใหญ่เนื้อค่อนข้างแข็ง จึงเหมาะกับกับการฉีดแบบลึกและฉีดบางตำแหน่งบนหน้า
- ฟิลเลอร์รุ่นที่อยู่ได้สั้นจะมีโมเลกุลเล็กเนื้อนิ่มละเอียด จึงเหมาะกับการฉีดผิวชั้นตื้นขึ้นค่ะ
2.ผลข้างเคียงที่พบน้อยมากๆ
ถ้าหมอฉีดฟิลเลอร์ให้คนไข้ 2 คน ด้วยฟิลเลอร์ชนิดเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกันและเทคนิกการฉีดเดียวกัน ระยะเวลาในการสลายของฟิลเลอร์ก็อาจแตกต่างกันได้ เพราะเป็นจากสภาพผิวของคนไข้เอง และการดูแลตัวเองหลังจากฉีดค่ะ
ฟิลเลอร์สลายหมดหรือไม่
ถ้าเป็นฟิลเลอร์ชนิดที่เราใช้ปัจจุบัน คือ HA filler ที่ผ่าน อย. สามารถสลายได้เองหมด 100% ไม่เหลือตกค้าง
การดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์
หมอคิดว่าหลายๆ คน หลังมาฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วก็อยากให้ผลที่ได้อยู่นานเพื่อให้รู้สึกคุ้มค่าใช่มั้ยคะ หมอจึงมีคำแนะนำการดูแลตัวเองง่ายๆ 5 วิธี มาฝากกันค่ะ
- ก่อนอื่นเลยต้องทราบหลักการก่อนว่า ถ้าหลังฉีดแล้วไม่บวมนานและเลือดออกมาก การอักเสบจะเกิดมากขึ้น จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้สั้นลง (จากประสบการณ์ของหมอนะคะ) ฉะนั้นถ้าเราไม่อยากมีการอักเสบ ต้องงดยากลุ่ม Aspirin, Nsaids (ยาแก้ปวด เช่น diclofenac, ibuprofen, ponstand) ที่ต้องทานต่อเนื่อง และงดวิตามิน เช่น แปะก๊วย กระเทียม โสม primrose oil, vit E และ Fish oil ก่อนมาฉีด 1 สัปดาห์ ค่ะ
ถ้าไม่แน่ใจในวิตามินที่ทาน แนะนำหยุดทานทุกตัวไปก่อน เพื่อความชัวร์เลยก็ได้ - กิจกรรมบางอย่างที่ทำให้เลือดไหลเวียนสูบฉีดมากๆ (หลักการเหมือนข้อแรก คือ จะทำให้การอักเสบมากขึ้น) เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายแบบหนักๆ (ถ้าแค่เดินหรือฟิตเนสเบาๆ ได้ค่ะ) และการอบซ่าวน่า ต้องงดไปก่อน 48 ชม.แรก
- อาหารบางอย่างที่ควรเลี่ยงใน 48 ชม.แรก คือ แอลกอฮอล์ ของหมักดอง ของที่หวานมากๆ และนมวัวที่อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบง่ายขึ้น พวกนี้งดไปก่อนนะคะ
- โดยปกติการสลายของฟิลเลอร์ในช่วงที่ยังสลายไม่หมด ยังสามารถถูกทดแทนด้วยโมเลกุลของน้ำได้ ฉะนั้น การดื่มน้ำพอเพียงคือ 2 ลิตรต่อวัน จะทำให้ฟิลเลอร์หมดช้าได้ ข้อนี้สำคัญมากๆ เลยนะคะ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือท่าทางที่ไปกด นวด รวมถึงการนอนทับตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ใน 2 สัปดาห์แรก เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตรวมกับเนื้อผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ