ลดร่องลึกใต้ตา มีวิธีการักษาให้หายไหม ต้องทำอย่างไรบ้าง
สวัสดีค่ะ หมอชื่อ หมอเหมี่ยว พญ.กัญวรา นวอนุรักษ์ เป็นแพทย์ประจำกัญวราคลินิกค่ะ หมอจะขอกล่าวถึงร่องใต้ตาและใต้ตาลึก ซึ่งเป็นปัญหาที่หมอมองว่าสำคัญสำหรับคนที่ต้องการให้ใบหน้าดูสดชื่นค่ะ จะแนะนำทั้งร่องใต้ตา คืออะไร เกิดจากอะไร รวมถึงการแก้ไขค่ะ
สารบัญ
ร่องใต้ตา คืออะไร
คือภาวะที่มีร่องตรงแนวใต้ตา ซึ่งทำให้ใบหน้าดูโทรม อิดโรย เหนื่อยล้า ดูแก่กว่าวัยค่ะ
สาเหตุร่องใต้ตาเกิดจากอะไร
ก่อนอื่นหมอขออธิบายโครงสร้างชั้นผิวใต้ตาคร่าวๆ เพื่อจะได้พอเข้าใจถึงสาเหตุและการแก้ไขได้ตรงจุดก่อนนะคะ
โดยปกติบริเวณเปลือกตาล่าง ถัดชั้นผิวหนังเข้าไปจะมีชั้นไขมันบางๆ (ในรูปไม่เห็น) ตามด้วยชั้นกล้ามเนื้อ (PO) ถัดมาจะเป็นผนังที่กั้นเบ้าตา (OS) ซึ่งจะปกคลุมไขมันใต้ตา (OF) และปกป้องเบ้าตาของเราค่ะ
และจะมีอีกส่วนที่อยู่ล่างจากร่องใต้ตาลงมา (ร่องใต้ตาตามในรูปคือจุดประสีฟ้าและเส้นทึบขาวๆ) ส่วนที่สองนี้ถัดจากผิวหนังจะมีชั้นกล้ามเนื้อ (OOM) แล้วตามด้วยไขมันชั้นลึก (SOOF) ซึ่ง 2 ส่วนจะถูกกั้นกลางด้วยเส้นเอ็นชนิดนึง (ตามในรูปคือจุดประสีฟ้าและเส้นทึบขาวๆ) ที่ยึดจากชั้นผิวหนังถึงชั้นกระดูกฉะนั้นแล้วเจ้าเอ็นตัวนี้แหละค่ะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดร่องใต้ตา กล่าวคือ
1.ถ้าผิวหนังและไขมันชั้นที่ติดผิวหนัง ตรงตำแหน่งนี้บางลงเล็กน้อย ก็จะเห็นเป็นร่องตื้นๆ บริเวณหัวตา มักจะเจอในเคสที่อายุยังไม่มากคือ ไม่เกิน 35 ปีค่ะ
2.ในกรณีที่ไขมันชั้นลึก (SOOF) และกระดูกเบ้าตายุบจากอายุที่เริ่มมากขึ้น จะเห็นร่องที่ชัดขึ้นและผิวส่วนโหนกแก้มดูหย่อนคล้อยแฟบลงด้วย จะเจอในเคสที่อายุมากขึ้นคือ 35 ปี เป็นต้นไปค่ะ
3.บางคนมีไขมันเบ้าตาดูคล้ายปลิ้นออกมา เพราะกล้ามเนื้อเปลือกตา (PO) และผนังกั้นเบ้าตา (OF) หย่อนจึงเห็นเป็นถุงใต้ตาและทำให้เห็นร่องใต้ตาชัดขึ้นส่วนนึงเป็นจากกรรมพันธุ์ค่ะ แต่อาการจะชัดขึ้นถ้าอายุมากขึ้นค่ะ
แก้ไขร่องใต้ตาได้อย่างไรบ้าง
การแก้ไขร่องใต้ตามีหลายวิธี แต่หมอขอแนะนำวิธีที่ทำได้ง่าย ปลอดภัย และเห็นผลเร็วที่สุด คือ การเติมฟิลเลอร์นะคะ
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มชนิดนึงค่ะ ในทางทฤษฎีสามารถแบ่งฟิลเลอร์ได้หลายชนิดเลยค่ะ แต่ฟิลเลอร์ที่คุณสมบัติดีที่สุด ผลข้างเคียงน้อยที่สุด ปลอดภัยและผ่าน อย.ไทย สลายได้หมด 100% มีชนิดเดียว คือ HA Filler (Hyarulonic acid filler) ค่ะ
คำถามเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ เพราะ
เราจะมีการใช้ยาชาก่อนที่จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ อีกทั้งตัวฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้วทำให้ขณะฉีดไม่เจ็บค่ะแค่อาจมีความรู้สึกหน่วงๆ เล็กน้อยในบางช่วงก่อนจะฉีดค่ะ
ในคนไข้ทั่วไปที่สภาพผิวปกติไม่ช้ำง่ายมักไม่ค่อยพบการช้ำค่ะ แต่อาจมีความรู้สึกตึงๆ บริเวณที่เติมฟิลเลอร์ในช่วง 3 วันแรก หลังทำยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามเดิม ไม่ต้องพักฟื้นค่ะ นอกจากนี้ในส่วนของหมอเอง จะมีเทคนิคในการฉีดที่ค่อยๆ ทำ มือเบา และใช้เข็มชนิดทู่ ซึ่งจะไม่อันตรายต่อเส้นเลือด ทำให้การบวมช้ำน้อยค่ะ
หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว สามารถสังเกตเห็นได้ทันทีถึงความเปลี่ยนแปลงจนถึงช่วง 3 เดือน ยิ่งช่วงนี้จะเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้นค่ะ ประสิทธิภาพจะคงที่ไปจนถึงประมาณ 6 เดือนและต้องกลับเข้ามาทำซ้ำตามที่พี่หมอนัดค่ะ
ถ้าเราเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว และตำแหน่งฟิลเลอร์อยู่ในชั้นผิวที่ต้องการแล้ว มักไม่มีอาการเป็นก้อนใต้ตาค่ะ แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีก้อนจากฟิลเลอร์ สามารถใช้ยาสลายเพื่อปรับแต่งฟิลเลอร์บางส่วนได้ค่ะ
จริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์ทุกบริเวณรวมถึงใต้ตามีโอกาสที่จะมีผลข้างเคียงได้ค่ะ ได้แก่ การเจอเป็นก้อน เป็นคลื่น การแพ้ การติดเชื้อ การเข้าเส้นเลือดทำให้เนื้อตายหรือตาบอด แต่โอกาสเกิดถือว่าน้อยมากๆ โดยเฉพาะแบบรุนแรง ซึ่งแทบจะไม่เจอเลยค่ะ หมอแนะนำว่าถ้าเราฉีดโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ที่รู้ว่าควรระวังไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง และในกรณีที่มีอาการผิดปกติต่างๆ แล้ว ควรรีบแก้ไขอย่างไรให้ผลข้างเคียงน้อยที่สุดค่ะ ในส่วนของหมอเอง พยายามอัพเดทความรู้และเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์อยู่เสมอค่ะ
ฟิลเลอร์ใต้ตาที่กัญวราคลินิกเป็นอย่างไร
- ฟิลเลอร์ที่ใช้ทุกหลอดผ่าน อย.
หมอใช้เข็มชนิดทู่ โดยปกติแล้วเข็มทู่ มีหลายรุ่น คุณภาพจะแตกต่างกันไป เข็มทู่ที่หมอใช้ เป็นรุ่นที่บาดผิวและเส้นเลือดน้อย ฉีดได้สมูท การเดินยาแม่นยำ ทำให้ลดโอกาสเจ็บ บวมช้ำน้อยที่สุด ปลอดภัย ผลลัพธ์ดีที่สุดค่ะ
หมอจะคำนึงถึงความต้องการของคนไข้เป็นหลัก ต้องการแบบไหน มีการพูดคุยถึงผลที่ได้ก่อนที่จะทำ เพื่อให้ตรงตามความคาดหวังค่ะ
ใช้เทคนิคการฉีด ที่ค่อยๆ ทำ พิถีพิถัน
เพื่อให้ฟิลเลอร์สวยเรียบเนียนไปกับผิว และลดการบวมช้ำค่ะ
ชนิดของฟิลเลอร์ใต้ตามีรุ่นไหนบ้าง
ที่กัญวราคลินิกจะเลือกรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ตามสภาพปัญหาของคนไข้แต่ละคนซึ่งหมอจะอธิบายไอเดียคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ ฟิลเลอร์ที่ใช้จะมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ฉีดตื้น ฉีดลึก และได้ทั้งตื้นลึก
- Restylane vital light
- Belotero soft
- Restylane lyft
- Belotero volume
- Juvederm voluma
- Juvederm vobella
- Belotero balance
ฟิลเลอร์ที่ใช้จะมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ฉีดตื้น ฉีดลึก และได้ทั้งตื้นลึก
- ถ้าคนไข้มีร่องใต้ตาตื้นๆ หรือปริมาณเล็กน้อย ดังกรณีที่ 1 ตามด้านบน หมอจะใช้ฟิลเลอร์กลุ่มฉีดตื้นค่ะ
- ถ้าคนไข้มีร่องที่เริ่มลึกขึ้น และมีส่วนของไขมันชั้นลึกหายไป กระดูกเริ่มยุบลง ดังกรณีที่ 2 ด้านบน ถ้าหมอสามารถใช้ยาเพียง 1 หลอดได้ จะเลือกใช้รุ่นที่ฉีดสามารถได้ทั้งตื้นลึก แต่ถ้าต้องใช้ยามากกว่า 1 หลอด จะใช้รุ่นตื้นและรุ่นลึกแบ่งกันไปค่ะ
- กรณีที่คนไข้มีถุงใต้ตาเหมือนกรณีที่ 3 ด้านบน หมอจะใช้รุ่นที่ได้ทั้งตื้นลึก ฉีดเพื่อปรับตรงร่องใต้ตาให้เต็มขึ้นมาเสมอถุงใต้ตาให้มากที่สุดค่ะ แต่ถ้าถุงใต้ตาหย่อนมาก แนะนำว่าการผ่าตัดจะเป็นการแก้ไขได้ตรงจุดและเห็นผลกว่าค่ะ
หลังจากฉีดเห็นผลเมื่อไร อยู่ได้นานแค่ไหน
หลังฉีดจะเห็นผลทันทีหลังจากที่ฉีดค่ะว่าผิวดูเรียบเนียน ใต้ตาเต็มขึ้น ผลที่ได้จะอยู่นาน 6 เดือนถึง 1 ปีครึ่ง ขึ้นกับฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองค่ะ
การดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์
หมอคิดว่าหลายๆ คน หลังมาฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วก็อยากให้ผลที่ได้อยู่นานเพื่อให้รู้สึกคุ้มค่าใช่มั้ยคะ หมอจึงมีคำแนะนำการดูแลตัวเองง่ายๆ 5 วิธีมาฝากกันค่ะ
- ก่อนอื่นเลยต้องทราบหลักการก่อนว่า ถ้าหลังฉีดแล้วไม่บวมนานและเลือดออกมาก การอักเสบจะเกิดมากขึ้น จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้สั้นลง (จากประสบการณ์ของหมอนะคะ) ฉะนั้นถ้าเราไม่อยากมีการอักเสบ ต้องงดยากลุ่ม Aspirin, Nsaids (ยาแก้ปวด เช่น diclofenac, ibuprofen, ponstand) ที่ต้องทานต่อเนื่อง และงดวิตามิน เช่น แปะก๊วย กระเทียม โสม primrose oil, vit E และ Fish oil ก่อนมาฉีด 1 วีค ค่ะ
ถ้าไม่แน่ใจในวิตามินที่ทาน แนะนำหยุดทานทุกตัวไปก่อน เพื่อความชัวร์เลยก็ได้ - กิจกรรมบางอย่างที่ทำให้เลือดไหลเวียนสูบฉีดมากๆ (หลักการเหมือนข้อแรก คือจะทำให้การอักเสบมากขึ้น) เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายแบบหนักๆ (ถ้าแค่เดินหรือฟิตเนสเบาๆ ได้ค่ะ), อบซ่าวน่า ต้องงดไปก่อน 48 ชม.แรกหลังการฉีด
- อาหารบางอย่างที่ควรเลี่ยง ใน 48 ชม.แรก คือ แอลกอฮอล์ ของหมักดอง ของที่หวานมากๆ นมวัวที่อาจกระตุ้นให้ปฎิกิริยาอักเสบง่ายขึ้น งดไปก่อนนะคะ
- โดยปกติ การสลายของฟิลเลอร์ในช่วงที่ยังสลายไม่หมด ยังสามารถถูกทดแทนด้วยโมเลกุลของน้ำได้ ฉะนั้น การดื่มน้ำพอเพียงคือ 2 ลิตรต่อวันจะทำให้ฟิลเลอร์หมดช้าได้ ข้อนี้สำคัญมากๆ เลยนะคะ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือท่าทางที่ไปกด นวด นอนทับตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ไป ใน 2 สัปดาห์แรก เพื่อให้ฟิลเลอร์เซทรวมกับเนื้อผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
ราคาฟิลเลอร์ใต้ตา
ปกติ 15,000.- ต่อ ซีซี โปรโมชั่น 13,500.- ต่อ ซีซี
(รวมยาชา เข็มที่ใช้ ค่าแพทย์ และอื่นๆ ไม่มีบวกเพิ่มค่ะ)
รีวิวเคสฟิลเลอร์ใต้ตาที่กัญวราคลินิก
สำหรับใครที่อ่านข้อมูล แล้วมีปัญหาต้องการปรึกษาหมอ หรือสอบถามเพิ่มเติม
กัญวราคลินิก ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ใกล้กับซาฟารีเวิลด์ เดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ
- เปิดให้บริการ วันอังคาร ถึงศุกร์ 10.30-19.30 น.
- เสาร์ อาทิตย์ 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
ช่องทางติดต่อ ตามด้านล่างนี้นะคะ