
Profhilo คือ ? ช่วย กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า จริงไหม? รีวิว โดย หมอเหมี่ยว กัญวราคลินิก
Profhilio
Profhilo ที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในตอนนี้ว่าคืออะไร มีจุดเด่นอะไร และต่างจากสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวอื่นอย่างไรบ้าง รวมถึงเราต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดแล้วจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ และที่สำคัญผลลัพธ์ที่ได้คืออะไรค่ะ สวัสดีค่ะ หมอเหมี่ยวแพทย์ประจำกัญวราคลินิกนะคะ วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟัง
Profhilo คือ สารที่ฉีดเข้าไปแล้วมีการซ่อมแซมเซลล์ผิวเราในทุกๆ ชั้นผิว ซึ่งเป็นคำนิยามของ Bio-remodelling ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็นการปรับปรุงคุณภาพผิวได้ทุกชั้น จากผิวที่เสื่อมโทรมกลายเป็นผิวที่ดูสดใสขึ้น สารสกัดกลุ่ม Collagen Biostimulator ที่ประกอบด้วยไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) เข้มข้นสูงProfhilo นั้นเหมือนกับเป็นสารช่างซ่อมฟื้นฟูผิวตัวใหม่ที่สามารถคืนความสดใสให้กับใบหน้าเราได้ค่ะ
สารใน Profhilo นั้นคือสารไฮยาลูโรนิคแอซิดที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่ไฮยาลูโรนิคแอซิดใน Profhilo มีความพิเศษมากกว่านั้นค่ะ ไม่เหมือนไฮยาลูโรนิคแอซิดทั่วไป เพราะไฮยาลูโรนิคแอซิดใน Profhilo เป็นลักษณะของ non-crosslinked คือไม่มีพันธะเชื่อมระหว่างโมเลกุลของไฮยาลูโรนิคแอซิด เพราะฉะนั้นจึงปราศจาก BDDE ที่เป็นพันธะเชื่อม ใครที่กังวลเกี่ยวกับ BDDE ว่าฉีดไปแล้วจะบวม ฉีดไปแล้วจะเกิดอาการแพ้ Profhilo ไม่มีค่ะ

แต่ Profhilo มีเทคโนโลยีที่จำเพาะมากๆ ค่ะ ชื่อว่า NAHYCO Technology สามารถที่จะเชื่อมพันธะด้วยตัวของมันเอง ซึ่งพันธะของเขาเกิดแบบนี้นะคะ จะมีอยู่ 2 โมเลกุลของไฮยาลูโรนิคแอซิดที่เป็นแบบ low molecular weight กับ high molecular weight โดยใช้ความร้อนให้ 2 โมเลกุลของไฮยาลูโรนิคแอซิดนี้เกิดการรวมกันหรือมาขมวดรวมกันเป็นเนื้อโมเลกุลเดียวกันค่ะ
ความโดดเด่นของ Profhilo คือ มี HA บริสุทธิ์มากถึง 64 mg ต่อ 1 หลอด ซึ่งมากกว่าฟิลเลอร์ และ Skin Booster ทั่วไป ผลิตด้วยเทคโนโลยี NAHYCO ทำให้ HA โมเลกุลเล็กและใหญ่ผสานเข้าด้วยกันในรูปแบบ Hybrid Cooperative Complex (HCC) ทำให้สารมีความเสถียร กระจายตัวได้ดี สลายตัวช้า และสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ รับรองจาก อย.ยุโรป และ อย.ไทย
จุดเด่นของ Profhilo
● มีปริมาณ HA สูงที่สุดในท้องตลาด ออกฤทธิ์ได้นาน 6-12 เดือน
● ไม่มีสารเคมีในการเชื่อมโมเลกุล ทำให้ ลดโอกาสแพ้ บวม แดงอักเสบ
● ช่วยทั้งเติมความชุ่มชื้น แก้ปัญหาผิวขาดน้ำ และ กระตุ้นคอลลาเจน ปรับคุณภาพผิว กระชับผิว
● ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน คลื่น ตัวยากระจายตัวได้ดี
● ฉีดได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ และตัว
● ฉีดง่าย เพียง 5 จุดต่อข้าง สำหรับ ใบหน้า และลำคอ
ถึงแม้ Profhilo จะมีส่วนประกอบหลักเป็น HA แต่ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็ม เพราะ Profhilo เป็นแบบ Non-crosslinked HA แต่ฟิลเลอร์เป็นแบบ Crosslinked HA Profhilo จึงไม่มีตัวเชื่อมพันธะ BDDE แบบฟิลเลอร์ จึงโอกาสแพ้น้อย อักเสบน้อย ไม่เป็นก้อน หรือเพิ่มวอลลุ่มได้เหมือนฟิลเลอร์
ถ้าจะถามหมอนะคะว่าทำไมหมอถึงสนใจในผลิตภัณฑ์ของ Profhilo จริงๆ หมอรู้จักเขามานานมากๆ แล้วค่ะ เขาถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวท็อปท็อปเลยนะคะในต่างประเทศ มีความจำเพาะและแตกต่างกับฟิลเลอร์ รวมถึงแตกต่างกับสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวอื่น ที่สำคัญนะคะเขาได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก CE จากยุโรปเรียบร้อย รวมถึงในประเทศไทยของเราได้อนุมัติโดยตรงในการฉีดในเรื่องของการฉีดเพื่อยกกระชับช่วงบริเวณใบหน้าและลำคอ และอีกอย่างหนึ่งก็คือฉีดเพื่อรักษาหลุมสิวได้ค่ะ

สำหรับผลิตภัณฑ์ Profhilo นะคะจะมาในรูปแบบของกล่องสวยงาม เวลาเราเปิดเข้ามาเนี่ยก็จะเจอว่าบรรจุอยู่ 1 ไซริงจ์ ซึ่ง 1 ไซริงจ์ของเขานะคะจะบรรจุยาอยู่ทั้งหมด 2 ซีซี
Profhilo ออกฤทธิ์ยังไง
Profhilo ไม่เพียงแต่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว แต่ยังทำงานในระดับฟื้นฟู โดยช่วยกระตุ้นเซลล์ที่สำคัญ ได้แก่ Keratinocyte , Fibroblast , Adipocyte ถือว่าครอบคลุมทุกชั้นผิว
● กระตุ้น Keratinocyte เป็นเซลล์ในชั้นหนังกำพร้า ทำให้ผิวชั้นนอกแข็งแรงขึ้น ลดปัญหาผิวแห้งผิวดูสดใส เรียบเนียน
● กระตุ้น Fibroblast เป็นเซลล์ในชั้นหนังแท้ เพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรง และ มีความยืดหยุ่น
● กระตุ้น Adipocyte เป็นเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง ช่วยคืนความแน่นของชั้นไขมันใต้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟู
ถ้าจะให้หมอบอกว่าความพิเศษของเขาคืออะไร เขาคือลูกครึ่งค่ะ เป็นลูกครึ่งระหว่างฟิลเลอร์งานผิวกับสารกระตุ้นคอลลาเจน เนื่องจากสารที่อยู่ใน Profhilo นั้นคือไฮยาลูโรนิคแอซิดที่เป็นแบบ non-crosslinked แต่มีการเชื่อมพันธะด้วยตัวของมันเอง เพราะฉะนั้นค่ะไฮยาลูโรนิคแอซิดตัวนี้จะให้ความชุ่มชื่นให้กับผิวเรา ซึ่งมันเป็นคุณสมบัติของตัวไฮยาลูโรนิคแอซิดอยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้ทำให้หน้าของเราดูฉุหรือดูมีวอลุ่มมากขึ้นเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ค่ะ
และตัวของไฮยาลูโรนิคแอซิดเขาเองนะคะเป็นเหมือนช่างซ่อมค่ะ ไปกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าของเราในทุกๆ ชั้น โดยเฉพาะผิวชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน ให้เซลล์ผิวที่อยู่ในแต่ละชั้นเนี่ยมีการทำงานได้ดีขึ้นและมีการสร้างเซลล์ใหม่ในชั้นผิวนั้นๆ ค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น ชั้นไฮไลท์ของเรานะคะคือชั้นหนังแท้หรือว่าชั้นเดอร์มิสนั่นเอง เขาไปกระตุ้นตัวไฟโบรบลาสต์ หมอว่าหลายคนรู้จักไฟโบรบลาสต์แล้วแหละ ให้สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินออกมาค่ะ ทำให้ผิวของเราเนี่ยมีการกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้ามากขึ้น มีความหนามากขึ้น ริ้วรอยดีขึ้น รูขุมขนดีขึ้น และมีความกระชับมากขึ้น
และอีกหนึ่งชั้นที่หมออยากจะเล่าให้ฟังก็คือ มันต่างกับสารกระตุ้นคอลลาเจนตรงที่ว่าเขาไปกระตุ้นเซลล์ในชั้นไขมันคือตัวแอดิโพไซต์ค่ะ ทำให้มีการสร้างไขมันออกมามากขึ้น แต่การสร้างเนี้ยไม่ได้ทำให้หน้าอ้วนนะคะ แต่ว่าทำให้คนที่มีความตอบของหน้า แล้วเราเลือกไปฉีดในจุดนั้นเนี่ย ให้ความตอบของเขาเนี่ยดูเต็มขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่เยอะจนเกินไปเหมือนกับการเติมฟิลเลอร์ค่ะ
- Profhilo ราคา 25,000 บาท (2 cc.)
- ราคาโปรโมชั่น 22,500 บาท (จำกัดเพียง 15 ท่านเท่านั้น)
(ราคาโปรโมชันอาจเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดก่อนการรักษา)

และอีกจุดหนึ่งที่เด่นมากๆ ของเขาคือตัวไฮยาลูโรนิคแอซิดของเขาค่ะมีการกระจายตัวได้อย่างดีมากๆ เดี๋ยวหมอจะมาเล่าให้ฟังหลังจากนี้นะคะว่าการฉีดตัว Profhilo เราต้องฉีดตรงไหน มีเทคนิคอย่างไรบ้าง แต่ทุกคนฟังแล้วจะตกใจว่าเอ๊ะทำไมเราฉีดแค่จุดจำนวนน้อย แล้วปล่อยยาปริมาณถือว่าเยอะในระดับนึงเลยแหละสำหรับจุดนึง แต่ไม่เป็นตุ่มไม่เป็นก้อนเลย เนื่องจากว่าเขาเนี่ยกระจายตัวกับผิวได้ดีมาก ใช้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมงหลังจากฉีดเท่านั้นเนี่ย ตุ่มก็จะยุบหายไป และสามารถฉีดแค่จุดนึงเนี่ยกระจายไปตรงบริเวณอื่น โดยที่เราไม่ต้องฉีดหลายๆ จุดบนหน้าให้เป็นรอยเข็มหรือว่าเป็นรอยช้ำเยอะๆ ค่ะ
Profhilo ออกฤทธิ์ยังไง
Profhilo ไม่เพียงแต่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว แต่ยังทำงานในระดับฟื้นฟู โดยช่วยกระตุ้นเซลล์ที่สำคัญ ได้แก่ Keratinocyte , Fibroblast , Adipocyte ถือว่าครอบคลุมทุกชั้นผิว
● กระตุ้น Keratinocyte เป็นเซลล์ในชั้นหนังกำพร้า ทำให้ผิวชั้นนอกแข็งแรงขึ้น ลดปัญหาผิวแห้งผิวดูสดใส เรียบเนียน
● กระตุ้น Fibroblast เป็นเซลล์ในชั้นหนังแท้ เพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรง และ มีความยืดหยุ่น
● กระตุ้น Adipocyte เป็นเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง ช่วยคืนความแน่นของชั้นไขมันใต้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟู
สำหรับ Profhilo นะคะสามารถฉีดได้หลากหลายบริเวณเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ลำคอ หลังมือ หรือแม้ว่ากระทั่งลำตัว หรือบางคนที่เป็นแผล แผลเป็นน่ะค่ะ อยากให้เกิดการซ่อมแซมก็เอา Profhilo ไปฉีดได้ แต่หมอจะมาแนะนำบริเวณใบหน้าและลำคอค่ะ เพราะว่าเป็นจุดเด่นของเขา
เริ่มที่ใบหน้าก่อน ที่บริเวณใบหน้าจะมีเทคนิคในการฉีดค่ะ เรียกว่า BAP Point แบบเทคนิค คือฉีดแค่ 5 จุดเท่านั้นต่อข้าง แต่ละจุดเนี่ยใช้ยาประมาณ 0.2 ซีซี เท่ากับว่าใน 1 ข้างเนี่ยเราใช้ยา 1 ซีซี 2 ข้างรวมเป็น 2 ซีซี 1 ไซริงจ์มี 2 ซีซีนะคะ เพราะฉะนั้น 1 หน้าใช้ 1 ไซริงจ์ค่ะ
และสำหรับที่บริเวณลำคอนะคะ ก็จะใช้เทคนิคที่เรียกว่า BAP Point แบบเทคนิคค่ะ ก็คือฉีดทั้งหมด 10 จุด แต่ละ 1 จุดฉีดตัวยาเท่ากันเหมือนใบหน้าเลยค่ะ จุดละ 0.2 ซีซี เพราะฉะนั้นทั้งหมด 10 จุดเนี่ยจะใช้ยาทั้งหมด 2 ซีซีเท่ากับว่าใช้ 1 ไซริงจ์ค่ะ
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีด Profhilo
● ผู้ที่ผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง อยากเน้นให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้น
● ผู้ที่มีริ้วรอยเล็กๆ อยากให้ผิวมีความแน่นกระชับ
● ผู้ที่ผิวมีความหย่อนคล้อย ผิวขาดความยืดหยุ่น
● ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว
● ผู้ที่มีปัญหา คอเหี่ยวย่น
● ผู้ที่ต้องฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม และต้องการชะลอการเสื่อมสภาพของผิวในระยะยาว
หน้าฉีดข้างละ 5 จุดรวมเป็น 10 จุด 2 ข้าง ใช้ตัวยา 1 ไซริงจ์ ที่คอฉีดทั้งหมด 10 จุด ใช้ตัวยา 1 ไซริงจ์เช่นเดียวกัน
ไม่ต้องคิดเยอะเลยค่ะ Profhilo คือสารที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าให้กับผิวได้ และสามารถฟื้นฟูผิวได้ เพราะฉะนั้นใครที่อยากได้ความชุ่มชื้น อยากได้การกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า อยากให้ผิวที่โทรมดูสดใสขึ้น ฉีด Profhilo ได้ ซึ่งเขามีเทคนิคที่หมอเล่าให้ฟังก่อนหน้าว่าฉีดที่หน้าได้ ฉีดที่คอได้
แต่ถ้าให้ลงดีเทลลึกลงไปกว่านั้นเนี่ย คือคนไข้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวขาดคอลลาเจน มีริ้วรอยบนผิวเยอะๆ มีปัญหารูขุมขน หรืออยากเพิ่มวอลุ่มให้กับใบหน้าแบบเบาๆ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เยอะเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ หรือคนไข้ที่มีปัญหาริ้วรอยเส้นๆ ที่คอ ผิวที่คอมีความหย่อนคล้อย ก็ฉีด Profhilo ได้ค่ะ

และอีกอย่างที่หมอจำได้นะคะ หมอบอกว่า Profhilo ผ่านอย.ไทยในเรื่องของการรักษาหลุมสิวค่ะ ฉีดเพื่อทำให้หลุมสิวเนี่ยมีการฟื้นฟูและตื้นขึ้น แต่อันนี้เป็นการรักษาหลุมสิวแบบค่อยเป็นค่อยไปและระยะยาวนะคะ เพราะว่ากระตุ้นให้ผิวเนี่ยเกิดการสร้างคอลลาเจนออกมาค่ะ
สำหรับอีกหนึ่งข้อบ่งชี้นะคะที่ Profhilo แก้ได้คือคนที่มีรอยแผล แผลเป็น หรือว่ารอยแตกลายค่ะ เพราะว่า Profhilo สามารถฟื้นฟูผิวเราได้ พวกรอยแผลต่างๆ หรือว่ารอยแตกลายก็จะดีขึ้น
Profhilo ฉีดกี่ครั้ง ถึงเห็นผล ผลอยู่ได้นานแค่ไหน
● สำหรับบริเวณใบหน้า หรือ ลำคอ แนะนำให้ฉีด ครั้งละ 2 cc (หรือ 1 หลอด)
● ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน ครั้งละ 1 เดือน
● ในเคสที่มีปัญหามาก หรือ หลุมสิว สามารถใช้จำนวนหลอดเพิ่มขึ้น หรือ เพิ่มจำนวนครั้งเป็น 3 ครั้งได้
● จะเริ่มเห็นผลหลังรับการรักษาไปแล้ว 1 เดือน และจะเห็นผลมากขึ้นหลัง 2 เดือน โดยผลลัพธ์ในด้านการกระตุ้นคอลลาเจน และแก้ปัญหาความเสื่อมของผิว จะอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและการตอบสนองของแต่ละคน
● โดยทั่วไปจะแนะนำให้ฉีดกระตุ้นทุก 6-12 เดือน เพื่อคงสภาพผิว หรือขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์
ต่อ 1 บริเวณนะคะ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือลำคอ เราจะฉีดทั้งหมด 2 ครั้ง แต่ละครั้งเนี่ยจะใช้ยาแค่ 1 ไซริงจ์คือ 2 ซีซี และห่างกันประมาณ 30 วัน และเมื่อฉีดครบ 2 ครั้งหรือว่า 1 คอร์สเนี่ย จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือนค่ะ ถามว่าถ้าอยากจะฉีดกระตุ้นล่ะทำได้ไหม ทำได้ค่ะ การกระตุ้นคืออยากทำให้ผิวช่วงนั้นเนี่ยดูดีขึ้น หมอแนะนำว่า 6 เดือนห่างจากครั้งล่าสุดมาค่ะ ก็คือห่างจากครั้งที่ 2 เนี่ยมาอย่างน้อย 6 เดือน แล้วก็ฉีดกระตุ้นได้เข็มนึงค่ะ
หัวข้อสุดท้ายแล้วค่ะ ฉีด Profhilo แล้วเนี่ยทำพร้อมกับหัตถการอื่นๆ ได้ไหม หรือว่าต้องเว้นนานเท่าไหร่ เดี๋ยวมาเริ่มที่อันแรกก่อน สารที่คล้ายๆ กับเขาเลย ตัวกันนะคะ สารกระตุ้นคอลลาเจนหรือพวกกลุ่มคอลลาเจนไบโอสติมูเลเตอร์ค่ะ จริงๆ แล้ว Profhilo เนี่ย เรามีจุดฉีดที่จำเพาะ ไม่ได้กระจายทั่วหน้าขนาดนั้น แต่ตัวยาเขาจะกระจายของเขาเอง และเน้นในผิวชั้นบนเป็นหลักค่ะ
หากการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนนั้นๆ นะคะอยู่คนละบริเวณกับจุดฉีดของ Profhilo เนี่ย สำหรับหมอคือสามารถทำพร้อมกันในวันเดียวกันได้ แต่สมมติว่าถ้ามันมีความคาบเกี่ยวกันในบางตำแหน่งเนี่ย หมอแนะนำให้เราเนี่ยฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนก่อน อย่างน้อยสัก 1 เดือน แล้วก็ตามด้วยการฉีด Profhilo ค่ะ
ต่อไปหัตถการถัดไปนะคะคือฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เราฉีดชั้นลึกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าฉีดชั้นลึก ชั้นกระดูก ชั้นไขมันชั้นลึกเพื่อปรับโครงสร้างหน้าหรือว่ายกหน้าเนี่ย เราสามารถที่จะฉีด Profhilo พร้อมกันในวันเดียวกันได้ เพราะว่า Profhilo เน้นในผิวชั้นบนค่ะ แต่ถ้าการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นฟิลเลอร์งานผิว หมอแนะนำว่าห้ามทำพร้อมกัน อาจจะทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนก็ได้ แล้วเว้น 1 เดือน แล้วค่อยทำตามด้วยอีกอย่างนึงค่ะ
ถัดมาค่ะพวกกลุ่มงานผิวต่างๆ ที่ใช้เครื่องเลเซอร์ เครื่องยกกระชับ หมอแนะนำให้เราไปทำเลเซอร์ก่อน เครื่องยกกระชับก่อน แล้วค่อยตามด้วยการฉีด Profhilo ค่ะ โดยการฉีด Profhilo ห่างจากการทำเลเซอร์อย่างน้อยประมาณ 1 เดือนค่ะ
หัตถการสุดท้ายก็คือการฉีดโบท็อกซ์ค่ะ ถ้าเป็นการฉีดโบท็อกซ์กราม ทำพร้อมกันได้เลย เพราะกล้ามเนื้อกรามเราอยู่ลึกค่ะ แต่ถ้าเป็นการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย ถ้าเราไปดูจุดฉีดดีๆ ของบริเวณใบหน้านะคะ มันจะไม่ทับซ้อนกับการที่เราฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย เพราะฉะนั้นเน้นนะคะ ถ้าไม่ทับซ้อนกันแล้วฉีดตามจุดฉีด BAP Point แบบเทคนิคเนี่ย ที่เขาแนะนำ สามารถทำร่วมกันและทำพร้อมกันได้ในวันเดียวกัน
แต่ถ้าหากว่าคุณหมอเนี่ยเขามีการดีไซน์เพิ่มเติมว่าเอ๊ะ คนนี้ดูมีหน้าผากที่ดูแฟบ อยากจะใช้ Profhilo เพื่อทำให้หน้าผากของเขาดูเต็มขึ้นในวันนั้น หมอไม่แนะนำให้ทำพร้อมกันนะคะ อาจจะฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยก่อน แล้วค่อยตามด้วยตัว Profhilo โดยห่างกันเนี่ย 1 เดือนเป็นอย่างต่ำ หรือฉีด Profhilo ก่อนแล้วค่อยตามด้วยโบท็อกซ์ริ้วรอย โดยห่างกันประมาณ 1 เดือน แบบนี้จะโอเคค่ะ

Profhilo มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
การฉีด Profhilo เป็นหัตถการ ที่มีผลข้างเคียงน้อยมาก โดยทั่วไป หละงจากฉีดไปแล้ว อาจมีรอยเข็ม ตุ่มนูนของยา รอยช้ำได้บ้าง แต่จะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ และ หลังการทำ สามารถดูแลใช้ชีวิตประจำวันตามปกติเหมือนเดิม
โดยสรุปนะคะ Profhilo คือ Bio-remodelling ค่ะ คือช่างซ่อมผิวที่สามารถซ่อมแซมและไปกระตุ้น ไปเคาะเซลล์ต้นกำเนิดของผิวแต่ละชั้นเนี่ย ให้ทำงานและมีการสร้างผลผลิตออกมาในแต่ละชั้นผิว เรียกได้ว่าเป็นตัวฟื้นฟูและบำรุงผิวที่ดีตัวนึงค่ะ
และเขาเป็นลูกครึ่งระหว่างฟิลเลอร์และสารกระตุ้นคอลลาเจน เพราะว่าเขาคือ non-crosslinked hyaluronic acid ที่สามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ และกระตุ้นให้ผิวของเรามีคอลลาเจนได้ โดยที่ไม่ได้เพิ่มวอลลุ่มให้หน้าดูฉุเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ค่ะ
เพราะฉะนั้น Profhilo ถือเป็นตัวช่วยที่ดีอันนึงของเราเลยค่ะ ที่ทำให้ผิวของเรามีสุขภาพดีขึ้นและสามารถกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถฉีดไปพร้อมๆ กับหัตถการอื่นๆ เพื่อเป็นการรักษาแบบครบวงจรทุกชั้นผิวค่ะ
การฉีด Profhilo นี้เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างเร็ว โดยส่วนใหญ่คนไข้จะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจากฉีดเข็มแรกไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ ผิวจะเริ่มดูสดใสขึ้น มีความชุ่มชื้นมากขึ้น และเมื่อฉีดครบ 2 เข็มแล้ว ผลลัพธ์จะยิ่งชัดเจนมากขึ้น ริ้วรอยลดลง ผิวกระชับขึ้น มีออร่าและดูสุขภาพดี
ข้อดีของ Profhilo อีกอย่างหนึ่งคือ การฟื้นตัวที่รวดเร็ว เนื่องจากเป็นการฉีดเพียงไม่กี่จุด และสารกระจายตัวได้ดี ทำให้ไม่เกิดรอยช้ำหรือรอยบวมมากนัก หลังฉีดเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนานเหมือนหัตถการอื่นๆ

Profhilo มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
การฉีด Profhilo เป็นหัตถการ ที่มีผลข้างเคียงน้อยมาก โดยทั่วไป หละงจากฉีดไปแล้ว อาจมีรอยเข็ม ตุ่มนูนของยา รอยช้ำได้บ้าง แต่จะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ และ หลังการทำ สามารถดูแลใช้ชีวิตประจำวันตามปกติเหมือนเดิม
Profhilo เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพผิวแบบองค์รวม ทั้งชุ่มชื้น เพิ่มความกระชับให้กับผิวที่หย่อนคล้อย ลดริ้วรอยเล็กๆ เพิ่มความยืดหยุ่น สามารถทำได้หลายบริเวณทั้งใบหน้า ลำคอ หลังมือ หลุมสิว เหมาะกับผู้ที่กลัวเจ็บเพราะทำได้ง่าย เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้นหรือดูแลตัวเองเป็นพิเศษ และ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
สำหรับท่านที่กำลังมองหาวิธีการฟื้นฟูผิวแบบธรรมชาติ ไม่เน้นเปลี่ยนรูปหน้า แต่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า ให้ผิวดูสดใส อ่อนเยาว์ มีความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และกระชับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ Profhilo เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ
หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีด Profhilo สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลนะคะ