เติมคางด้วยฟิลเลอร์ ให้หน้าคม สวยเป๊ะ ไม่ต้องทนเจ็บนาน
คางของเราเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับรูปหน้า คนไทยส่วนใหญ่นั้นอยากมีใบหน้าเรียวสวยเป็นรูปตัววี สิ่งสำคัญนอกจากการเพิ่มกรอบหน้าให้คมชัดก็คงเป็นการทำคางนี่แหละค่ะ เพราะทุกคนไม่ได้เกิดออกมาแล้วรูปหน้าได้สัดส่วนทุกอย่าง ทำให้หลายคนให้ความสนใจกับการเสริมคางเป็นอย่างมาก การเสริมคางก็มีด้วยกันหลากหลายวิธี ทั้งแบบที่ต้องผ่าตัดและแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด
การเสริมคางแบบไม่ต้องผ่าตัด คือ การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นอีกหนึ่งวิธีการเสริมความงาม หรือปรับรูปคางให้สวยงามมากยิ่งขึ้น สาเหตุสำคัญที่วิธีนี้ได้รับความนิยม เพราะใช้เวลาไม่นาน วิธีการง่ายกว่าการผ่าตัดคางและพักฟื้นไม่นาน ทำให้หลายๆ คนที่มีปัญหาเรื่องการเสริมคาง หรือปรับรูปคาง มาใช้การฉีดฟิลเลอร์คางมากทีเดียว แต่การฉีดฟิลเลอร์คางยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ควรรู้ก่อนฉีดอีกมากมาย ลองมาทำความรู้จักกันก่อนตัดสินใจได้เลย
สวัสดีค่ะ หมอชื่อ หมอเหมี่ยว พญ.กัญวรา นวอนุรักษ์ แพทย์ประจำกัญวราคลินิก มีคำแนะนำสำหรับการเติมคางด้วยฟิลเลอร์มาฝาก พร้อมบอกถึงรายละเอียดว่าจะแก้ไขอย่างไรให้เห็นผลดีที่สุดค่ะ
ฟิลเลอร์คางคืออะไร?
ฟิลเลอร์คาง คือ การเติมสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปบริเวณคาง เพื่อเสริมคาง ปรับรูปหน้า แก้ปัญหาคางสั้น คางตัดหรือคางถอย ช่วยให้คางยาวขึ้น ใบหน้ามีมิติมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล หลังทำเห็นผลทันที จึงเป็นเหตุผลที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันค่ะ
มารู้จักกับกรดไฮยาลูโรนิกในฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิก กรดชนิดนี้สามารถพบได้ตามธรรมชาติในร่างกายเราค่ะ เช่น ข้อต่อของร่างกาย ดวงตา ผิวหนัง และตามอวัยวะส่วนต่างๆ การเติมฟิลเลอร์ชนิดนี้จึงมีความปลอดภัยกว่าการนำซิลิโคนมาใส่อย่างแน่นอน ด้วยกลไกการสลายตัวของฟิลเลอร์ตามธรรมชาติของร่างกายเมื่อเวลาผ่านไป
ฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร
- คนที่คางสั้น คางตัด ส่งผลให้หน้าดูกลม
- คนที่ไม่อยากศัลยกรรมผ่าตัดเสริมคาง เพราะกลัวเจ็บ หรือไม่มีเวลาพักฟื้น
- คนที่เสริมคางมาแล้ว ถอดออกทำให้เนื้อบริเวณคางดูเหี่ยวย่น เพราะผิวหนังถูกยืดออกมาจากการเสริมคางแล้ว (แนะนำให้ถอดพักก่อนอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง)
- เหมาะสำหรับคนที่อยากเสริมคาง แต่ไม่แน่ใจว่าเสริมแล้วจะสวยไหม เข้ากับใบหน้าตัวเองหรือปล่าว การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถช่วยประเมินทรงคางก่อนเสริมได้
ฟิลเลอร์คางปลอดภัยหรือไม่
โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์เป็นการเสริมความงามที่ไม่มีอันตรายเลยค่ะ ถ้าสารที่ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้จะสกัดจากสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบสารที่ร่างกายผลิตออกมาอยู่แล้ว ทำให้ไม่เป็นผลเสียต่อร่างกายและสามารถสลายตัวไปเองได้
หากสารที่ฉีดเข้าไปไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ แต่เป็นซิลิโคนเหลว ในระยะยาวซิลิโคนเหลวจะทำปฏิกิริยากับร่ายกายเรา ทำให้ไหลมารวมกัน เกิดเป็นรอยขรุขระ ห้อยย้อย ไม่เรียบเนียน และไม่สามารถสลายออกไปได้ ต้องแก้ไขโดยการผ่าตัดเพื่อขูดออกเท่านั้น
ขั้นตอนการเติมฟิลเลอร์คาง
อันดับแรกแพทย์จะวิเคราะห์โครงหน้าและรูปคางก่อนว่าเป็นอย่างไร จากนั้นจะกำหนดจุดที่ฉีดว่าควรฉีดเสริมตรงไหนเพื่อให้ออกมาเข้ากับใบหน้ามากที่สุดค่ะ
ขั้นตอนการเติมคางปกติจะใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิน 30 นาทีก็เสร็จ โดยปกติจะไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ สามารถกลับบ้านและออกงานได้เลย
การฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง และทุกบริเวณบนใบหน้า แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยเองทุกครั้งว่าผู้รักษาควรฉีดกี่ cc เพราะใบหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นปริมาณฟิลเลอร์ที่ได้รับก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะฉีดกันโดยประมาณที่ 1 cc
ผลข้างเคียงหลังเติมคางด้วยฟิลเลอร์
ผลข้างเคียงทั่วไปจะเหมือนกับการฉีดบริเวณอื่นๆ เช่น อาจพบอาการปวดบวมและช้ำเล็กน้อยใกล้กับบริเวณที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ อาการเหล่านี้มักจะหายได้เองภายในสองสามวัน ผลลัพธ์หลังการเติมคางด้วยฟิลเลอร์ สามารถเห็นได้เลยหลังจากที่ฉีดเสร็จ
เติมคางด้วยฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์คางสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 1-2 ปี อยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ค่ะ
ข้อดี-ข้อเสียของเติมคางด้วยฟิลเลอร์
ข้อดี
- เห็นผลทันที เพราะฉีดแล้วขึ้นทรงเลย สวยทันใจ
- ดูเป็นธรรมชาติ
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำกิจวัตรประจำได้อย่างปกติ ไม่จำเป็นต้องหยุดงาน
- การเติมคางด้วยฟิลเลอร์นั้นเป็นทางเลือกชั่วคราว สำหรับคนที่ยังไม่พร้อมจะเข้ารับการผ่าตัดเสริมคางเทียม เหมาะกับคนที่ต้องการ “ลอง” รูปลักษณ์ใหม่ก่อนทำคางจริงๆ
- ฟิลเลอร์มีราคาถูกกว่าการเสริมคาง
- ถ้าไม่ชอบผลลัพธ์จากฟิลเลอร์ที่ใช้กรดไฮยาลูโรนิก เราสามารถเปลี่ยนกลับไปแบบเดิมได้โดยใช้วิธีฉีดยาสลายฟิลเลอร์
ข้อเสีย
- หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานไม่ได้รับการรับรองจาก อย. มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อ แพ้ สลายไม่หมด เป็นก้อน และผลข้างเคียงอื่นได้ค่ะ ฉะนั้นแนะนำว่าควรศึกษาข้อมูลของคลินิกที่จะฉีดให้ลึกซึ้งก่อนค่ะ
- การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือเลือกสถานพยาบาลที่ไม่น่าเชื่อถือ มีความเสี่ยงมาก หากไม่ใช่แพทย์ที่เชี่ยวชาญ อาจฉีดในจุดที่ไม่ควรฉีด หรือฉีดผิดชั้นผิดตำแหน่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง
วิธีการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
7 วันแรก
- แนะนำว่าภายใน 2 วัน หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง ให้เลี่ยงออกกำลังกายหนักๆ ที่ทำให้เหงื่อออกมากๆ หรือการออกกำลังกายหนักๆ ที่ต้องมีการสัมผัสบริเวณที่ฉีดคางไป เช่น การชกมวย
- เลี่ยงการลูบคลำ นวด คลึง บริเวณที่ฉีด หรือปั้นให้เป็นรูปร่างเอง
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 3-7 วันแรกหลังฉีด
- แนะนำให้ดื่มน้ำในปริมาณที่มาก (โดยเฉพาะ 4 วันแรก) การดื่มน้ำจะช่วยทำให้เกิดการเติมเต็ม ฟิลเลอร์จะสามารถอยู่ได้นาน และดูอิ่มฟูเป็นธรรมชาติมากขึ้น)
หลังผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว
- สามารถทำ Treatment อื่นๆ ได้ตามปกติ (ยกเว้น Laser, Rf และ Ionto ต้องรอ 2 สัปดาห์)
ภายใน 2 สัปดาห์ หลังฉีด
- สามารถทำ Treatment อื่นๆ ได้ตามปกติ (ยกเว้น Laser, Rf และ Ionto ต้องรอ 2 สัปดาห์)
ภายใน 2 สัปดาห์ หลังฉีด
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำร้อนในบริเวณที่ฉีด
- งดเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า ทำเลเซอร์ ทำ RF หรือ ไอออนโต (Ionto)
- การสัมผัสความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ได้ สำหรับความร้อนในระดับที่สามารถสัมผัสได้ คือ ไดร์เป่าผมและแสงแดดที่ไม่แรงจ้าเกินไป
หลังจาก 2 สัปดาห์ขึ้นไป ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ