ที่ตั้ง หน้าหมู่บ้านไอดีไซน์ ใกล้สำนักงานเขต คลองสามวา
ลดเหนียงด้วย เมโสเฟส
ลดเหนียงด้วย เมโสเฟส

ฉีดเมโสแฟต ลดแก้ม ลดเหนียง คืออะไร เห็นผลจริงมั้ย

สาวๆ หลายคนคงพบปัญหา แก้มใหญ่หน้ากลมอยากจะลดแก้ม หรือมีเหนียงก็อยากจะลดเหนียง เพราะมีไขมันตัวร้ายที่ทำให้ใบหน้าดูกลม ไม่เข้ารูป เกิดจากไขมันส่วนเกินในบริเวณนั้นๆ บางคนตัวเล็ก สมส่วน ไม่อ้วน แต่ก็มีแก้มที่เยอะหรือมีเหนียง ซึ่งการฉีดเมโสแฟต ถือเป็นทางเลือกนึงที่จะช่วยเข้าไปสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณนั้นๆ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลยค่ะ

แพทย์หญิงกัญวรา นวอนุรักษ์
สวัสดีค่ะ หมอชื่อ หมอเหมี่ยว พญ.กัญวรา นวอนุรักษ์ แพทย์ประจำกัญวราคลินิก หมอมีคำแนะนำสำหรับคนที่สงสัยเรื่อง ลดแก้ม ลดเหนียงด้วยเมโสแฟตมาฝาก เช่น เมโสแฟตคืออะไร เห็นผลจริงมั้ย กี่ครั้งเห็นผล ต่างกับโบทอกซ์อย่างไร และข้อมูลอื่นๆ ค่ะ

เมโสแฟต คืออะไร

การนำตัวยาเข้าสู่ชั้นผิว ด้วยการฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมัน ส่วนใหญ่นิยมฉีดบริเวณใบหน้า ตรงแก้ม เหนียง มีคุณสมบัติช่วยสลายไขมัน โดยเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะสลายไขมันโดยธรรมชาติ

เทคนิคการฉีกเมโสแฟต
เทคนิคการฉีกเมโสแฟต

ฉีดเมโสแฟตบริเวณไหนได้บ้าง

  • ลดแก้ม ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น ลดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า เป็นจุดที่ได้รับความนิยมที่สุดค่ะ
  • ลดเหนียง ลดคางสองชั้น บริเวณใต้คางนี้จะเป็นจุดที่ลดไขมันด้วยวิธีอื่นได้ยากค่ะ จึงเหมาะกับการฉีดเมโสแฟต
  • ลดต้นแขน ต้นขา อาจต้องใช้ปริมาณยาค่อนข้างเยอะ เพราะไขมันมาก หมอแนะนำว่าถ้าไขมันมีปริมาณมากแนะนำให้ดูดไขมัน หรือออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก
  • ลดหน้าท้อง ลดพุง ลดสะโพก บริเวณนี้ไขมันค่อนข้างเยอะเช่นเดียวกับต้นขา ต้องใช้ปริมาณยาเยอะค่ะ
  • ลดไขมันข้างรักแร้
  • ลดไขมันปีกหลัง

ส่วนประกอบยาในเมโสแฟต

  • Artichoke extract ช่วยลดการสร้างกรดไขมัน
  • L-carnitine ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน ดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น 
  • Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, Amino acid หรือ Minerals ซึ่งเป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง ไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด

เมโสแฟตเหมาะกับใครบ้าง

เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาไขมันใบหน้าเยอะ เช่น บริเวณแก้ม กรอบหน้า รวมไปถึงเหนียง ปรับสัดส่วนใบหน้าให้ดูดีขึ้นโดยวิธีการฉีด ไม่ต้องผ่าตัดหรือต้องพักฟื้น สวยได้ในเวลาอันรวดเร็ว เห็นผลชัดเจน หากฉีดสม่ำเสมอค่ะ

เมโสแฟตกับโบท็อกต่างกันอย่างไร

โบท็อก คือ สาร Botulinum toxin ซึ่งออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลงแล้วมีขนาดเล็กลง จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าบานจากกล้ามเนื้อมุมกรามขนาดใหญ่ ไม่ได้ช่วยเรื่องไขมัน

ส่วนเมโสแฟต คือ สารสกัดที่ใช้ฉีดลดปริมาณไขมัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่หน้ากลม หรือเหนียงเยอะจากไขมันค่ะ

อย่างไรก็ตามทั้งโบท็อกและเมโสแฟต สามารถใช้ฉีดร่วมกันได้เพื่อช่วยให้เห็นผลเรื่องการปรับรูปหน้าชัดเจน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคนว่าเหมาะกับการฉีดอะไรบ้าง หมอแนะนำว่าควรให้แพทย์ประเมินก่อนว่าเราเหมาะกับวิธีไหนค่ะ

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต

หมอกำลังฉีดเมโสเฟส
  1. หมอจะประเมินรูปหน้าก่อนเพื่อวางแผนการฉีด
  2. ทำความสะอาดผิว
  3. ประคบน้ำแข็งก่อนฉีด
  4. หมอฉีดตัวยาตามจุดที่มีไขมันโดยเข็มขนาดเล็ก เพื่อให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุด ใช้ตัวยาจุดละประมาณ 0.3-2 ซีซี ต่อจุด ฉีดกระจายทั่วบริเวณ

การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต

  1. หลังฉีดเมโสแฟตไปแล้ว หมอแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อเร่งการออกฤทธิ์และขับตัวยาออกทางปัสสาวะ
  2. หลังจากฉีดเมโสแฟต สามารถทำหัตถการทรีตเมนท์ที่เกี่ยวกับการยกกระชับผิวร่วมด้วยได้ เพื่อให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย
  3. หลังฉีดสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
  4. ช่วง 2 ชั่วโมงแรก สามารถใช้มือนวดเบาๆบริเวณที่ฉีด เพื่อช่วยการกระจายของตัวยาได้
  5. ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด เพื่อไม่ให้เกิดการเพิ่มไขมัน และลดการสะสมไขมันใหม่

เมโสแฟตอันตรายมั้ย

การฉีดเมโสแฟต เป็นหัตถการที่ไม่น่ากลัว หรืออันตรายค่ะ อีกทั้งหลังฉีดแล้วไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย เรียกได้ว่าสวยเร็ว เห็นผลไว

เมโสแฟตแบบไหนที่อันตราย

เมโสแฟต ถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมินปริมาณยาและตัวยาที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม คลินิกที่ได้มาตรฐานและเปิดอย่างถูกต้องก็มีความปลอดภัยค่ะ  แต่จะมีเมโสแฟตบางอย่างที่อันตราย ได้แก่

1.สเตียรอยด์

เป็นยาที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้รักษาโรคที่มีการอักเสบภายในร่างกาย แต่ด้วยความที่ยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์ข้างเคียงทําให้ไขมันฝ่อและสลายตัวไป จึงมีการนำสเตียรอยด์มาฉีดเพื่อสลายไขมันเฉพาะส่วน เพราะฉีดแล้วไขมันสลายไว ต้นทุนต่ำ แต่เป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ผ่านอย. เนื่องจากต้องฉีดยาเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก คนไข้อาจเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดได้ เช่น เสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังบุ๋ม ฉีดต่อเนื่องหลายครั้งหน้าจะบวมได้ค่ะ

2.ยาสลายฟิลเลอร์ หรือ hyaluronidase 

เป็นยาที่ใช้สำหรับฉีดสลายฟิลเลอร์ค่ะ แต่ถูกนำมาใช้ผิดวิธีโดยฉีดยาสลายฟิลเลอร์มาฉีดเพื่อสลายไขมัน ทำให้คอลลาเจนถูกย่อยสลายไป ส่งผลให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็วซึ่งเมื่อฉีดมากๆ จะทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยก่อนวัยและผิวดูหย่อนคล้อยมากกว่าเดิมค่ะ

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการฉีดเมโสแฟต

หลังทำเมโสแฟต ไขมันใต้ผิวจะค่อยๆสลายตัวไปเรื่อยๆ และจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นไปหลังรับการรักษา และจะเห็นผลสูงสุดในวันที่ 7 หลังรับการรักษาค่ะ

ปริมาณที่แนะนำคือ อย่างน้อยข้างละประมาณ 3 ซีซี ต่อครั้ง แต่หากต้องการผลที่ชัดเจนมากขึ้นก็สามารถใช้ปริมาณตัวยาที่มากกว่านั้นได้ตามปริมาณไขมัน โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ ค่ะ

โดยทั่วไปจะสามารถรักษาผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง การรับประทานอาหารที่จะไม่เพิ่มการสะสมของไขมัน หรือถ้าอยากรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เรื่อยๆ ค่ะ

รู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา โดยจะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บค่ะ

หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไป ซึ่งโดยทั่วไปยาจะค่อยๆ ซึม และยุบบวมใน 3-4 ชั่วโมง บางรายอาจบวมได้ 1-3 วัน

รีวิวเคสกัญวราคลินิก

สำหรับใครที่อ่านข้อมูล แล้วมีปัญหาต้องการปรึกษาหมอ หรือสอบถามเพิ่มเติม

กัญวราคลินิก ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ใกล้กับซาฟารีเวิลด์ เดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ

  • เปิดให้บริการ วันอังคาร ถึงศุกร์ 10.30-19.30 น.
  • เสาร์ อาทิตย์ 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันจันทร์

 ช่องทางติดต่อ ตามด้านล่างนี้นะคะ

เว็บไซต์

Kanwaraclinic.com

Facebook

Kanwara clinic กัญวราคลินิก

Line

@kanwaraclinic

โทร

02-1151528 , 091-7954884

map

Line

Facebook

Address

Tel