ฉีดเมโสแฟต ลดแก้ม ลดเหนียง คืออะไร เห็นผลจริงมั้ย
สาวๆ หลายคนคงพบปัญหา แก้มใหญ่หน้ากลมอยากจะลดแก้ม หรือมีเหนียงก็อยากจะลดเหนียง เพราะมีไขมันตัวร้ายที่ทำให้ใบหน้าดูกลม ไม่เข้ารูป เกิดจากไขมันส่วนเกินในบริเวณนั้นๆ บางคนตัวเล็ก สมส่วน ไม่อ้วน แต่ก็มีแก้มที่เยอะหรือมีเหนียง ซึ่งการฉีดเมโสแฟต ถือเป็นทางเลือกนึงที่จะช่วยเข้าไปสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณนั้นๆ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลยค่ะ
สารบัญ
เมโสแฟต คืออะไร
การนำตัวยาเข้าสู่ชั้นผิว ด้วยการฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมัน ส่วนใหญ่นิยมฉีดบริเวณใบหน้า ตรงแก้ม เหนียง มีคุณสมบัติช่วยสลายไขมัน โดยเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะสลายไขมันโดยธรรมชาติ
ฉีดเมโสแฟตบริเวณไหนได้บ้าง
- ลดแก้ม ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น ลดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า เป็นจุดที่ได้รับความนิยมที่สุดค่ะ
- ลดเหนียง ลดคางสองชั้น บริเวณใต้คางนี้จะเป็นจุดที่ลดไขมันด้วยวิธีอื่นได้ยากค่ะ จึงเหมาะกับการฉีดเมโสแฟต
- ลดต้นแขน ต้นขา อาจต้องใช้ปริมาณยาค่อนข้างเยอะ เพราะไขมันมาก หมอแนะนำว่าถ้าไขมันมีปริมาณมากแนะนำให้ดูดไขมัน หรือออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก
- ลดหน้าท้อง ลดพุง ลดสะโพก บริเวณนี้ไขมันค่อนข้างเยอะเช่นเดียวกับต้นขา ต้องใช้ปริมาณยาเยอะค่ะ
- ลดไขมันข้างรักแร้
- ลดไขมันปีกหลัง
ส่วนประกอบยาในเมโสแฟต
- Artichoke extract ช่วยลดการสร้างกรดไขมัน
- L-carnitine ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน ดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น
- Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, Amino acid หรือ Minerals ซึ่งเป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง ไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด
เมโสแฟตเหมาะกับใครบ้าง
เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาไขมันใบหน้าเยอะ เช่น บริเวณแก้ม กรอบหน้า รวมไปถึงเหนียง ปรับสัดส่วนใบหน้าให้ดูดีขึ้นโดยวิธีการฉีด ไม่ต้องผ่าตัดหรือต้องพักฟื้น สวยได้ในเวลาอันรวดเร็ว เห็นผลชัดเจน หากฉีดสม่ำเสมอค่ะ
เมโสแฟตกับโบท็อกต่างกันอย่างไร
โบท็อก คือ สาร Botulinum toxin ซึ่งออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลงแล้วมีขนาดเล็กลง จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าบานจากกล้ามเนื้อมุมกรามขนาดใหญ่ ไม่ได้ช่วยเรื่องไขมัน
ส่วนเมโสแฟต คือ สารสกัดที่ใช้ฉีดลดปริมาณไขมัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่หน้ากลม หรือเหนียงเยอะจากไขมันค่ะ
อย่างไรก็ตามทั้งโบท็อกและเมโสแฟต สามารถใช้ฉีดร่วมกันได้เพื่อช่วยให้เห็นผลเรื่องการปรับรูปหน้าชัดเจน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคนว่าเหมาะกับการฉีดอะไรบ้าง หมอแนะนำว่าควรให้แพทย์ประเมินก่อนว่าเราเหมาะกับวิธีไหนค่ะ
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
- หมอจะประเมินรูปหน้าก่อนเพื่อวางแผนการฉีด
- ทำความสะอาดผิว
- ประคบน้ำแข็งก่อนฉีด
- หมอฉีดตัวยาตามจุดที่มีไขมันโดยเข็มขนาดเล็ก เพื่อให้คนไข้เจ็บน้อยที่สุด ใช้ตัวยาจุดละประมาณ 0.3-2 ซีซี ต่อจุด ฉีดกระจายทั่วบริเวณ
การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
- หลังฉีดเมโสแฟตไปแล้ว หมอแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อเร่งการออกฤทธิ์และขับตัวยาออกทางปัสสาวะ
- หลังจากฉีดเมโสแฟต สามารถทำหัตถการทรีตเมนท์ที่เกี่ยวกับการยกกระชับผิวร่วมด้วยได้ เพื่อให้ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย
- หลังฉีดสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
- ช่วง 2 ชั่วโมงแรก สามารถใช้มือนวดเบาๆบริเวณที่ฉีด เพื่อช่วยการกระจายของตัวยาได้
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด เพื่อไม่ให้เกิดการเพิ่มไขมัน และลดการสะสมไขมันใหม่
เมโสแฟตอันตรายมั้ย
การฉีดเมโสแฟต เป็นหัตถการที่ไม่น่ากลัว หรืออันตรายค่ะ อีกทั้งหลังฉีดแล้วไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย เรียกได้ว่าสวยเร็ว เห็นผลไว
เมโสแฟตแบบไหนที่อันตราย
เมโสแฟต ถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมินปริมาณยาและตัวยาที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม คลินิกที่ได้มาตรฐานและเปิดอย่างถูกต้องก็มีความปลอดภัยค่ะ แต่จะมีเมโสแฟตบางอย่างที่อันตราย ได้แก่
1.สเตียรอยด์
เป็นยาที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ใช้รักษาโรคที่มีการอักเสบภายในร่างกาย แต่ด้วยความที่ยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์ข้างเคียงทําให้ไขมันฝ่อและสลายตัวไป จึงมีการนำสเตียรอยด์มาฉีดเพื่อสลายไขมันเฉพาะส่วน เพราะฉีดแล้วไขมันสลายไว ต้นทุนต่ำ แต่เป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ผ่านอย. เนื่องจากต้องฉีดยาเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก คนไข้อาจเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดได้ เช่น เสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังบุ๋ม ฉีดต่อเนื่องหลายครั้งหน้าจะบวมได้ค่ะ
2.ยาสลายฟิลเลอร์ หรือ hyaluronidase
เป็นยาที่ใช้สำหรับฉีดสลายฟิลเลอร์ค่ะ แต่ถูกนำมาใช้ผิดวิธีโดยฉีดยาสลายฟิลเลอร์มาฉีดเพื่อสลายไขมัน ทำให้คอลลาเจนถูกย่อยสลายไป ส่งผลให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็วซึ่งเมื่อฉีดมากๆ จะทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยก่อนวัยและผิวดูหย่อนคล้อยมากกว่าเดิมค่ะ
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการฉีดเมโสแฟต
หลังทำเมโสแฟต ไขมันใต้ผิวจะค่อยๆสลายตัวไปเรื่อยๆ และจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นไปหลังรับการรักษา และจะเห็นผลสูงสุดในวันที่ 7 หลังรับการรักษาค่ะ
ปริมาณที่แนะนำคือ อย่างน้อยข้างละประมาณ 3 ซีซี ต่อครั้ง แต่หากต้องการผลที่ชัดเจนมากขึ้นก็สามารถใช้ปริมาณตัวยาที่มากกว่านั้นได้ตามปริมาณไขมัน โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ ค่ะ
โดยทั่วไปจะสามารถรักษาผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง การรับประทานอาหารที่จะไม่เพิ่มการสะสมของไขมัน หรือถ้าอยากรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เรื่อยๆ ค่ะ
รู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา โดยจะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บค่ะ
หลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไป ซึ่งโดยทั่วไปยาจะค่อยๆ ซึม และยุบบวมใน 3-4 ชั่วโมง บางรายอาจบวมได้ 1-3 วัน
รีวิวเคสกัญวราคลินิก
สำหรับใครที่อ่านข้อมูล แล้วมีปัญหาต้องการปรึกษาหมอ หรือสอบถามเพิ่มเติม
กัญวราคลินิก ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ใกล้กับซาฟารีเวิลด์ เดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ
- เปิดให้บริการ วันอังคาร ถึงศุกร์ 10.30-19.30 น.
- เสาร์ อาทิตย์ 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
ช่องทางติดต่อ ตามด้านล่างนี้นะคะ
เรื่องล่าสุด
- สาเหตุของ “สิวไม่มีหัว” รักษายังไง ให้ยุบเร็ว ไม่ทิ้งรอย
- น้ำเกลือใช้รักษาสิวได้จริงหรือเปล่า เช็คให้ชัวร์ ก่อนทำ
- การเลเซอร์สิวบ่อย ๆ จะทำให้ผิวบางลงและมีความอ่อนแอ จริงหรือไม่
- เช็คก่อนดูแลก่อน “ผิวแห้ง” กับ “ผิวขาดน้ำ” ความเหมือนที่แตกต่าง
- ยกกระชับหน้า ปรับใบหน้าให้เป็นธรรมชาติ ไม่ผ่าตัด ไม่พักฟื้น
- เช็คด่วน! ความรุนแรงของหลุมสิวแต่ละชนิดมีระดับไหนบ้าง
- dual yellow laser ข้อเสีย มีอะไรบ้าง? ราคาแพงไหม? ทำไมที่ กัญวราคลินิก จึงใช้ Cellec IPL แทน