ที่ตั้ง หน้าหมู่บ้านไอดีไซน์ ใกล้สำนักงานเขต คลองสามวา

วิธีการรักษาสิวที่เป็นที่นิยม มีทั้งการรักษาด้วยยาทา เลเซอร์ หรือยากินที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบและฆ่าเชื้อ แต่ในปัจจุบันมีการนำจุลินทรีย์โพรไบโอติก (Probiotics) หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันในชื่อ แล็กโตบาซิลลัส ที่อยู่ในโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว มาเป็นตัวช่วยในการรักษาสิว และถือเป็นอีกวิธีหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนไข้ที่มีร่างกายอ่อนแอ ระบบย่อยและภูมิคุ้มกันไม่ดี

ก่อนอื่นมารู้อีกหนึ่งสาเหตุใกล้ตัวที่ก่อให้เกิดปัญหาสิว สาเหตุที่หลายคนมองข้ามกัน นอกจากจะมีสาเหตุหรือตัวกระตุ้นภายนอกแล้ว ระบบภายในร่างกายของเราก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้เกิดสิวได้ เช่น ระบบย่อยอาหาร โดยเป็นสาเหตุของปัญหาสิวได้ ดังนี้

การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง มีกากใยอาหารน้อย ทำให้เกิดภาวะท้องผูก หลังจากนั้นร่างกายจะเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของลำไส้ และภาวะเครียด ส่งผลกระทบต่อระบบสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ผนังลำไส้เสียสมดุล สารพิษ Endotoxin ที่ถูกสร้างสร้างขึ้นโดยแบคทีเรียสามารถหลุดออกจากผนังลำไส้ไปสู่ระบบไหลเวียนเลือดได้ เมื่อสารพิษจากแบคทีเรียหลุดเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดได้แล้วจะส่งผลกระตุ้นการอักเสบ ทำให้กลไกการอักเสบของโรคผิวหนังพื้นฐานอย่างภูมิแพ้ผิวหนัง และทำให้สิวมีอาการอักเสบขึ้นได้

โพรไบโอติก (Probiotics) จุลินทรีย์ดี มีประโยชน์

โพรไบโอติก คือ แบคทีเรียดีที่อาศัยอยู่ภายในร่างกาย โดยเฉพาะในระบบย่อยอาหาร โพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก มีส่วนช่วยในเรื่องการปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดแบคทีเรียที่ไม่ดีต่อร่างกาย รวมไปถึงเป็นตัวช่วยในเรื่องผิวพรรณให้ดีขึ้น

หากอยากรู้ว่าร่างกายเรามีโพรไบโอติกเพียงพอหรือไม่? สังเกตได้ง่ายๆ เมื่อร่างกายมีโพรไบโอติกน้อย จะทำให้การทำงานของระบบย่อยอาหารไม่ดี เกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก หรือท้องอืด นอกจากการทำงานของระบบย่อยอาหารไม่ดีแล้ว ยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย เช่น ร่างกายรู้สึกอ่อนแอ เหนื่อยง่าย เป็นหวัดบ่อย หรือในบางคนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเตือนแล้วว่า ร่างกายของเรามีจำนวนโพรไบโอติกน้อยลง

ตัวช่วยในการรักษาสิว โพรไบโอติก (Probiotics)

จากผลการวิจัยของ Robert H. Siver นายแพทย์จากโรงพยาบาล Union Memorial ในเมืองบอลทิมอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าคนไข้ที่มีปัญหาสิว 80% มีอาการดีขึ้น หลังจากได้กินโพรไบโอติกทั้งกลุ่มคนไข้ตัวอย่างที่กินโพรไบโอติกชนิด แล็กโทบาซิลลัส แอซิโตฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) และกลุ่มตัวอย่างที่กินโพรไบโอติกชนิด แล็กโทบาซิลลัส บัลกาลิคัส (Lactobacillus bulgaricus) 

อีกหนึ่งงานวิจัยที่สอดค้องกันคือ งานวิจัยของประเทศอิตาลี ที่ให้กลุ่มตัวอย่างคนไข้ที่มีปัญหาสิวกินโพรไบโอติกชนิด แอล. แอซิโตฟิลัส (L. acidophilus) และบี. บิฟิตัม (B. bifidum) ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มคนไข้ที่มีปัญหาสิวมีอาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งสองงานวิจัยจึงมีข้อสรุปที่ว่า เมื่อร่างกายได้รับโพรไบโอติก ซึ่งเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น อาการอักเสบลดน้อยลง คนไข้ที่มีปัญหาสิวอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากโพรไบโอติกเข้าไปช่วยให้มีการอักเสบน้อยลง นอกจากช่วยลดการอักเสบแล้ว โพรไบโอติกยังช่วยลดจำนวนแบคทีเรียไม่ดีที่เป็นสาเหตุการเกิดสิว ทำให้สิวลดลงได้อีกด้วย

ตัวช่วยในการรักษาสิวจากภายในด้วยโพรไบโอติก (Probiotics) ถือเป็นอีกตัวช่วยที่น่าสนใจสำหรับใครหลายๆ คนที่มีปัญหาสิว เป็นๆ หายๆ ได้ดีเลยทีเดียว การเพิ่มโพรไบโอติกในร่างกายเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละบุคคล ดังนั้นวิธีการที่ปลอดภัยและดีที่สุด แนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้ดี และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เองค่ะ

Line

Facebook

Address

Tel