ปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ สองปัญหาผิวที่ฟังดูคล้ายกันจนหลายคนอาจจะเข้าใจผิวว่าสองสิ่งนี้คือปัญหาเดียวกัน แต่นั่นคือความคิดที่ผิดค่ะ เพราะปัญหาผิวแห้งกับปัญหาผิวขาดน้ำนั้นเป็นปัญหาที่ต่างกันโดนสิ้นเชิง ทั้งสาเหตุของการเกิดและการดูแลรักษาต่างกัน แต่ด้วยข้อบ่งชี้ของปัญหาอย่างเช่นผิวสากผิวแห้งนั้นมีลักษณะค่อนข้างที่จะคล้ายคลึงกันจนหลายคนแยกไม่ออก วันนี้เรามาทำความรู้จักกันค่ะว่า ปัญหาผิวแห้ง กับ ผิวขาดน้ำมีความแตกต่างกันอย่างไร
ปัญหาผิวแห้งคืออะไร?
ผิวแห้ง (Dry Skin) คือ ผิวที่อยู่ในสภาพ “ขาดความมัน” โดยสาเหตุของปัญหาผิวแห้งนั้นมาจากต่อมไขมันที่มีหน้าที่ผลิตไขมันเพื่อหล่อเลี้ยงผิวทำงานได้น้อยกว่าปกติ หรือถ้าพูดกันอย่างเข้าใจง่ายเลยก็คือ ต่อมไขมันใต้ผิวหนังสร้างไขมันได้น้อยกว่าปกติทำให้ไม่พอต่อความต้องการของผิวส่งผลให้ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้นาน ผิวเกิดภาวะแห้งตึงไปจนถึงผิวลอกเป็นขุยได้
ปัญหาผิวแห้งนั้น ส่วนมากแล้วจะเป็นปัญหาที่มีมาตั้งแต่กำเนิด เนื่องจากสภาพผิวที่มีรูขุนขนเล็ก หรือระบบร่างกายที่ส่งผลต่อต่อมไขมันใต้ผิวหนัง
หลายคนคงยังมีความสงสัยต่ออีกว่าแล้วผิวแห้ง คือคนที่ผิวแห้งตลอดเวลาใช่หรือไม่?
ขอตอบเลยค่ะว่าใช่ค่ะ ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนหรือชื้นขนาดไหน สภาพผิวก็ยังคงมีความแห้งอยู่เสมอค่ะ
วิธีสังเกตว่าเรา “ผิวแห้ง” หรือไม่?
- ผิวแห้งแตก (ในบางรายอาจแตกจนมีเลือดออก)
- ผิวลอกเป็นขุย ผิวตกสะเก็ด
- ผิวอยู่สภาพหยาบกร้าน
- มีอาการคันตามผิวหนังร่วมด้วย
วิธีดูแลรักษาผิว สำหรับคนผิวแห้ง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- รับประทานอาหารที่มีวิตามิน A, C, และ E
- รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงแห้งให้ชุ่มชื้น
- เลือกใช้ครีมบำรุงที่อ่อนโยนต่อผิว
- เติมความชุ่มชื้นของผิวด้วย มอยเจอร์ไรเซอร์
ปัญหาผิวขาดน้ำคืออะไร?
ผิวขาดน้ำ (Dehydrated Skin) คือ ผิวที่อยู่ในสภาพ “ขาดความชุ่มชื่น” หรือผิวอยู่ในช่วงภาวะที่มีน้ำหล่อเลี้ยงผิวไม่เพียงพอ โดยสาเหตุของปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นหรือผิวขาดน้ำนี้เกิดได้จากสาเหตุหรือปัจจัยที่หลากหลาย อาทิเช่น ปัญหาผลภาวะ สภาพอากาศ หรือผิวขาดการบำรุง
ปัจจัยหลักๆ ของปัญหาผิวขาดน้ำนั้นมาจากสภาวะภายนอก ที่ส่งผลกระทบต่อระบบร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ หรือมลภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน ดังนั้นปัญหาผิวขาดน้ำจะไม่เกิดตลอดเวลา แต่จะเป็นๆ หายๆ
ปัญหาผิวขาดน้ำ สามารถเกิดได้กับทุกสภาพผิว และเมื่อเกิดปัญหาผิวขาดน้ำสิ่งที่มักจะตามมาเลยก็คือปัญหาผิวแพ้ง่าย หมองคล้ำ เป็นสิวง่าย แต่งหน้าไม่ติด และผิวจะเกิดผดใต้ผิวหนัง
วิธีสังเกตว่าเรา “ผิวขาดน้ำ” หรือไม่?
- มีอาการคัน หรือระคายเคืองผิว
- ผิวแห้งเฉพาะจุดและมีผิวมันในเวลาเดียวกัน
- เกิดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา
- เกิดร่องตื้นและริ้วรอย
วิธีดูแลรักษาผิว สำหรับคนผิวขาดน้ำ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- รับประทานผักผลไม้
- ลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- เติมความชุ่มชื้นของผิวด้วย มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือว่านหางจระเข้
- หลีกเลี่ยงการใช้โฟมล้างหน้าที่มีฟองเยอะ
เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าปัญหา “ผิวแห้ง” และ “ผิวขาดน้ำ” เป็นปัญหาที่ต่างกันอย่างมากเลย ทั้งสาเหตุเริ่มต้นของการเกิด รวมไปถึงลักษณะอาการก็มีความต่างกันด้วย ดังนั้น การสังเกตตัวเองว่าเป็นผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ และเลือกวิธีดูแลผิวให้ตรงกับสภาพของปัญหาผิวของเรา นอกจากจะเป็นวิธีการดูแลผิวที่ดีแล้วยังช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้ผิวของเราแย่หนักกว่าเดิมจากการดูแลที่ผิดวิธีอีกด้วยค่ะ
สำหรับใครที่อ่านข้อมูล แล้วมีปัญหาต้องการปรึกษาหมอ หรือสอบถามเพิ่มเติม
กัญวราคลินิก ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ใกล้กับซาฟารีเวิลด์ เดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ
- เปิดให้บริการ วันอังคาร ถึงศุกร์ 10.30-19.30 น.
- เสาร์ อาทิตย์ 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
ช่องทางติดต่อ ตามด้านล่างนี้นะคะ