สิวที่หลัง ขึ้นเยอะมาก รักษาได้ ถ้าอยากหายขาด ต้องรู้ "วิธี" [สำหรับคนใจร้อน]
สวัสดีค่ะ หมอเหมี่ยว พญ.กัญวรา นวอนุรักษ์ แพทย์ประจำกัญวราคลินิกค่ะ ในบทความนี้ หมอจะให้ข้อมูลทั้งเกี่ยวกับพื้นฐานของสิวที่หลัง เพราะว่าเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด หมอเชื่อว่าปัญหาเรื่อง สิว เป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคน
สารบัญ
สิวที่หลัง
สิวที่หลังเรื่องใหญ่กว่าที่คิด หมอเชื่อว่าปัญหาเรื่องสิวเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคน ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาสิวที่หน้าเท่านั้น ยังมีสิวบริเวณหลังที่เป็นเรื่องให้สาวๆ มักกังวลใจ เพราะถึงแม้สิวที่หลังจะเกิดในที่ร่มผ้า เป็นบริเวณที่ไม่มีใครมองเห็นก็จริง แต่บางครั้งก็เป็นอุปสรรคที่ทำให้สาวๆ เสียความมั่นใจในการแต่งตัวได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาต้องสวมชุดที่โชว์แผ่นหลัง เช่น ใส่เสื้อสายเดี่ยว ใส่ชุดว่ายน้ำ ใส่ชุดราตรีสวยๆเวลาออกงาน หรือ ต้องใส่ชุดเจ้าสาวในวันสำคัญ
สิวที่หลังไม่ได้เป็นปัญหาแค่ในสาวๆเท่านั้น ยังสร้างปัญหาให้กับหนุ่มๆ ด้วย เพราะสิวที่หลังในผู้ชายมักเป็นง่าย สิวมักขึ้นเยอะ แถมถ้าใครได้เป็นแล้ว จะกลับมาเป็นซ้ำเรื่อยๆ เพราะด้วยสาเหตุที่ผู้ชายมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนและเหงื่อออกมากกว่าผู้หญิง แค่ทำกิจกรรมกลางแจ้งนิดหน่อยก็เหงื่อท่วมตัวแล้ว จึงทำให้เกิดสิวที่หลังไม่หายขาดสักที หากผู้ชายคนไหนที่เป็นสิวที่หลัง จะทำให้ดูเป็นคนไม่ค่อยสะอาด และบางทีอยากถอดเสื้อ ก็ไม่กล้าถอดเพราะอาย
มากกว่านั้น ไม่ใช่เพียงแค่หนุ่มสาวเป็นสิวที่หลัง แม้กระทั่งคนอายุที่เพิ่มขึ้น วัยทำงานแล้วก็ยังเกิดได้ และมักจะเป็นสิวเรื้อรัง หรือเป็นสิวแบบเป็นๆ หายๆ สิวในวัยทำงาน มักเกิดจากหลายๆ ปัจจัยร่วมกัน ไม่เฉพาะเจาะจงกับสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งชัดเจน และอาจมีความเกี่ยวข้อง กับ ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ร่วมด้วย
จะเห็นว่าปัญหาสิวที่หลังจึงมีผลต่อความกังวลใจของทั้งวัยหนุ่มสาว หรือวัยที่อายุเพิ่มขึ้นทุกคน
จำเป็นต้องรักษาสิวที่หลัง ไหม ? ถ้าโควิดต้องติดอยู่แต่ในบ้าน
ถึงแม้ช่วงนี้โควิดระบาดทำให้เราต้องติดอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปพบปะผู้คน ไม่ได้จำเป็นต้องแต่งตัวเปิดแผ่นหลัง แต่ปัญหาสิวที่หลังยังสร้างปัญหาได้อยู่ดี เพราะสิวลักษณะนี้จะทำให้เกิดอาการคัน อยากแกะ อยากเกา รู้สึกไม่สบายตัว รบกวนชีวิตประจำวันในทุกรูปแบบ หรือหากเป็นสิวที่หลังแล้วเกิดการอักเสบขึ้นมา โดยเฉพาะเวลาเสียดสีกับเสื้อผ้าจะยิ่งทำให้รู้สึกระบม เจ็บปวดมากยิ่งขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดูแลรักษาเพื่อให้สิวที่หลังหายไป
ถ้าอยากรักษาสิวที่หลังควรต้องรู้อะไรบ้าง ?
เมื่อตัดสินใจว่าต้องการรักษาสิวที่หลังแล้วล่ะก็ ก่อนที่จะเริ่มรักษา เราควรเข้าใจตั้งแต่ ในกรณีของสิวที่หลังที่เกิดกับตัวเราเองนั้น
- อะไรคือสาเหตที่แท้จริง ที่กระตุ้นให้เราเป็นสิวที่หลัง
- สิวมีกี่แบบ
- เราเป็นสิวที่หลังชนิดไหน
- ควรรักษาอย่างไรได้บ้าง
ซึ่งการดูแลรักษามีหลายแบบ ถ้าเราเป็นสิวปริมาณไม่มาก ก็สามารถลองรักษาง่ายๆด้วยตัวเอง แต่ถ้ารักษาด้วยตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือเป็นชนิดที่รุนแรงแบบที่คิดว่าตัวเองจัดการไม่ได้ควรไปปรึกษาแพทย์
เพื่อให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยและรักษาให้ถูกทางจะทำให้ผลการรักษาดีกว่า รักษาด้วยตัวเอง และก่อนตัดสินใจว่าจะรักษาสิวที่หลังที่ไหนดี ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิกรักษาสิวและแพทย์ที่รักษาให้ดีก่อน
ก่อนอื่น หมอขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ หมอชื่อ หมอเหมี่ยว พญ.กัญวรา นวอนุรักษ์ แพทย์ประจำกัญวราคลินิก ค่ะ
รีวิวรักษาสิวที่หลัง
สิวที่หลังมีกี่ประเภท และมีความรุนแรงแตกต่างกันหรือไม่?
ประเภทของสิวที่หลัง
ถ้าจะแบ่งประเภทของสิวที่หลังแบบเข้าใจง่ายๆ สามารถแบ่งตามลักษณะของสิวที่ขึ้น แบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ
1. สิวชนิดไม่อักเสบ
จะมีลักษณะเป็นสิวที่ยังไม่มีอาการบวมแดงของผิว ในกรณีนี้ถ้าได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและรักษาอย่างถูกวิธี จนสิวหาย ถ้าเป็นสิวที่เกิดบนแผ่นหลังก็อาจจะไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะมันมักจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นใดๆ
1.1 สิวอุดตัน สิวหัวปิด หรือสิวหัวขาว
สิวแบบนี้จะมีลักษณะเป็น ตุ่มขนาดเล็ก มองเห็นเป็นเงาสีขาวๆ ตรงกลาง แต่จะยังไม่เห็นรูขุมขนเปิดออกมาเป็นรู สิวชนิดนี้เป็นสิวที่อยู่ในช่วงต้องรักษาโดยการทา ผลิตภัณฑ์รักษาสิว สักพักก่อน เพื่อให้หัวสิวหลวม และหลุดออกจากโพรงรูขุมขนง่ายขึ้น (แต่ถ้าเป็นสิวบนแผ่นหลังก็จะมีความลำบากในการใช้ผลิตภัณฑ์ ลำบากในการทา อาจจะต้องมีผู้ช่วย) จากนั้นจึงจะสามารถกดสิวออกมาได้ สิวแบบนี้ถ้าทิ้งไว้ ปล่อยไว้โดยไม่ได้รักษา อาจมีโอกาสกลายเป็น สิวอักเสบ
1.2 สิวอุดตัน สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดำ
สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มๆ มีขนาดเล็กคล้ายๆกับสิวหัวขาว และจะสามารถมองเห็นได้ตรงบริเวณรูขุมขน โดยจะเห็นมีจุดสีดำหรือจุดสีน้ำตาลอยู่ด้านใน ซึ่งเป็นหัวสิวที่เกิดจาก ไขมันทำปฏิกิกริยากับอากาศ
สิวชนิดนี้รักษาได้ไม่ยาก เพราะสามารถกดสิวออกได้เลย แต่จำเป็นอย่างมากที่ต้องกดออกโดยวิธีที่ถูกต้อง และยิ่งถ้าเป็นสิวแบบที่เกิดบนแผ่นหลังจากมีความยากลำบากในการกดสิว ดังนั้นควรให้อยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้มีความชำนาญดีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง หลังกดสิว เช่น อักเสบ ติดเชื้อ หรือ เกิดเป็น รอยแผลเป็น
2. สิวชนิดอักเสบ
2.1 สิวที่มีอาการบวมแดง
เมื่อสิวยุบมักมีรอยแผลเป็นตามมา ซึ่งสิวอักเสบก็สามารถแบ่งได้ ตามขนาดและความรุนแรง หากเป็นกรณีที่เกิดขึ้นที่หลัง เมื่อใส่เสื้อผ้า อาจมีการเสียดสี ปวด แสบ หรือร้อน
2.2 สิวอักเสบแบบนูนแดง
สิวแบบนี้มีลักษณะเป็นตุ่ม บวมนูนแดงขนาดเล็ก เจ็บเล็กน้อย เกิดจากเคยเป็นสิวอุดตันมาก่อนแล้ว มีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย อักเสบ หรือเป็นรูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา (หรือเรียกกันว่า สิวเชื้อรา) ส่วนใหญ่มักพบในการเป็นสิวที่หลังของผู้ชายที่มีพฤติกรรมการเล่นกีฬาและออกกำลังแล้วเกิดเหงื่ออับชื้นกับเสื้อผ้าที่ใส่
2.3 สิวอักเสบแบบเป็นหนอง
มักจะมีลักษณะเป็นตุ่ม บวมแดง และมีจุดหนองสีเหลืองๆ หรือสีขาวตรงกลาง สาเหตุคล้ายกับสิวแบบนูนแดง เพราะเกิดจากเคยเป็นสิวอุดตันมาก่อน แล้วมีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียอักเสบ หรือเป็นรูขุมขนอักเสบจากเชื้อราก็ได้ สิวหนองขึ้นที่หลังจะติดเชื้อได้ง่ายกว่าสิวที่หลังรูปแบบอื่น
2.4 สิวอักเสบขนาดใหญ่
สิวประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นก้อนใหญ่ บวมแดง เจ็บ มักมีหนองอยู่ข้างใน กรณีที่เกิดขึ้นที่แผ่นหลังคนไข้มักจะมีอาการเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดและแทบตลอดเวลาที่ใส่เสื้อผ้า สาเหตุมักเกิดจากมีหัวสิวอุดตันอยู่หลายหัว แล้วเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อขึ้นพร้อมๆ กัน สิวชนิดนี้จะ “รักษายาก” กว่าชนิดอื่นๆ
หากเป็นสิวลักษณะนี้และเป็นที่หลังด้วยแล้วล่ะก็ จำต้องใช้ยาฆ่าเชื้อเพื่อให้ลดการอักเสบ นอกจากนี้ บางทีสิวยุบแล้วยังเหลือหนองคั่งอยู่ด้านใน อาจต้องเจาะเอาหนองออกเพื่อให้สิวยุบเร็ว เมื่อสิวหายแล้วจะทิ้งรอยแผลเป็นนาน ความลำบากในการรักษา คือ วิถีชีวิตที่จะเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าได้อยาก จึงอาจส่งผลให้ต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิดและใช้ระยะเวลาในการรักษามากพอสมควร
ความรุนแรงของสิวที่เป็นบนแผ่นหลัง ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
จะเห็นว่า สิวที่หลัง มีหลากหลายชนิดจริงๆ บางคนอาจมีปัญหาแค่ สิวอุดตัน อย่างเดียว บางคนมีสิวอักเสบอย่างเดียว หรือ บางคนมีทั้ง สิวอุดตันและอักเสบปะปนกัน ความรุนแรงของปัญหาสิวที่หลัง จึงขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังนี้
- ปริมาณสิวที่เป็น
ถ้าสิวที่หลังปริมาณมากๆ จะรักษายากกว่าคนที่เป็นสิวปริมาณน้อยๆ และ ต้องใช้เวลาในการดูแลรักษานานกว่า เพื่อจะให้สิวลดน้อยลง จนสามารถกำจัด สิวออกได้หมด
- ลักษณะของสิวที่ขึ้น
เรื่องนี้อาจจะมีความยากลำบากหากตัวผู้เป็น สิวที่หลัง ต้องสังเกตแผ่นหลังของตัวเอง เพราะต้องพิจารณา ทั้งขนาดและความลึกของหัวสิว ถ้าหัวสิวขนาดใหญ่ และ หัวสิวอยู่ลึก จะใช้เวลารักษานานกว่า สิวขนาดเล็กและอยู้ผิวชั้นตื้น สิวอักเสบ จะรุนแรงกว่า สิวอุดตัน เพราะถ้าเป็นสิวอักเสบ มักทิ้งรอยแผลเป็นรอยดำรอยแดงให้กวนใจ ต้องรักษารอยแผลเป็นร่วมด้วย จึงเป็นที่น่ากังวลสำหรับคุณผู้หญิงที่อยากอวดผิวบนแผ่นหลั
สิวที่หลัง มีสาเหตุจากอะไร ?
เพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งขึ้น หมอขออธิบายตั้งแต่ กลไกการเกิดสิว ตามหลักการแพทย์ว่าสิวเกิดได้อย่างไร เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นว่าสิวที่เกิดขึ้นทั่วไปรวมทั้งสิวบนแผ่นหลัง มีสาเหตุหลายอย่างร่วมกัน
- ต่อมไขมันมีการหลั่งไขมัน ออกมาที่รูขุมขนมากขึ้น เพราะมีตัวการกระตุ้นที่สำคัญ คือ ฮอร์โมน เรื่องนี้ก็ไม่แปลกหากเข้าใจว่า แผ่นหลังของคนเราทั่วไป ก็จะมีพื้นที่รูขุมขนมากมายอยู่แล้ว
- ผิวหนังชั้นนอกสุดเกิดหนาตัวและแบ่งตัวมากผิดปกติ ทำให้มาอุดตันที่รูขุมขน ทำให้การไหลของไขมันออกมาลำบาก เกิดอุดตันพองออก มีลักษณะเป็นกระเปาะ จะเรียกว่าสิวอุดตันนั่นเองค่ะ ซึ่งมีทั้งสิวหัวปิดและสิวหัวเปิด เหมือนกับที่ได้เล่าไปแล้วข้างต้น และแผ่นหลังของคนเราก็สามารถเกิดสิวอุดตันได้เช่นเดียวกัน
- ปริมาณแบคทีเรียที่ผิวหนังมีมากเกินไป ปกติจะผิวหนังของพวกเราจะมีแบคทีเรียอยู่ แต่มีปริมาณพอดีๆ จึงไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ แต่ถ้าผิวเกิดมีความมันมากเกิน เจ้าแบคทีเรียชนิดนี้ ก็จะกินไขมันเป็นอาหาร มันจึงเพิ่มจำนวนขึ้นได้มากจนเกินความจำเป็น ยิ่งถ้าเป็นบริเวณภายใต้ร่มผ้า อย่างบนแผ่นหลัง ก็จะกระจายตัวออกไปได้
- ปฏิกิริยาอักเสบ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียไปเป็นตัวกระตุ้น ทำให้เกิดปฏิกิริยาขึ้นมา ซึ่งการอักเสบสิวนี้จะเกิดเป็นขั้นตอนสุดท้าย
สาเหตุของการเกิดสิวทั้ง 4 ข้อ ที่บอกไว้นี้จะกำเริบมากขึ้นได้ ไม่เว้นแม้ว่าจะเป็นการเกิดสิวที่หลังหรือไม่ก็ตาม
ปัจจัยของการเป็นสิวที่มาจากภายในร่างกาย
กรรมพันธ์ ปัญหาเรื่องสิวเป็นเรื่องที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธ์ได้ พบว่าถ้าบุคคลในครอบครัวมีปัญหาสิวและผิวมัน แม้ว่าจะไม่ได้มีปัญหาสิวที่หลังโดยตรง ตัวเราเองก็มีโอกาสเป็นสิวได้มาก
ฮอร์โมน มีผลต่อการกำเริบของสิว ได้แก่
- ฮอร์โมนแอนโดรเจน ฮอร์โมนเพศชาย แต่ถึงแม้จะเป็นฮอร์โมนเพศชายก็สามารถพบได้ในทั้งชายและหญิง ทำให้สิวเกิดได้ในทั้งสองเพศค่ะ ฮอร์โมนแอนโดรเจนสูงทำให้เป็นสิวง่าย รวมถึงสิวที่เกิดที่หลังด้วย
- ฮฮร์โมนโปรเจสเตอโรน ฮอร์โมนเพศหญิง ฮอร์โมนนี้จะมีปริมาณสูงขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน ส่งผลต่อการบวมของผิว สิวอุดตัน เกิดการอักเสบของสิวได้ ดังนั้น สาวๆ ที่ต้องเปิดเผยแผ่นหลังในช่วงเวลานี้ อาจจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ
ปัจจัยของการเป็นสิวที่มาจากภายนอกหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน
1. อาหาร
อาหารบางอย่างมีส่วนกระตุ้นต่อการเกิดสิวได้ รวมถึงสิวที่หลังด้วย อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมปัง ขนมหวาน ชานมไข่มุก นมวัว และ ผลิตภัณฑ์จากนมวัว เช่น ชีส โยเกริต ไอศครีม ไขมันทรานส์ เช่น ครีม เนย เบเกอรี่ เฟรนฟรายส์ ขาดสารอาหาร เช่น สังกะสี วิตามินเอ โปรไบโอติก
2. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิว
ถ้าเราทำความสะอาดไม่ดีพอ มันจะไปกระตุ้นให้เกิดการอุดตันและอักเสบของสิวที่หลังได้ เช่น สบู่ ครีมอาบน้ำ ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกใช้สูตรที่ไม่มีน้ำมัน Oil free
3. เสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในการซักรีดด้วย
เสื้อผ้าเสียดสีผิวของเราตลอดเวลา ถ้าเนื้อผ้าระบายอากาศไม่ดีพอก็จะอับชื้น ทำให้มีการสะสมของเหงื่อ คราบขี้ไคล รวมถึง เมื่อเหงื่อไคลผสมปนกับสิ่งตกค้างจากผลิตภัณฑ์ในการซักรีด ส่งผลได้โดยตรงกับการเป็นสิวที่หลัง ซึ่งหลายคนมักมองข้ามประเด็นนี้ไป
4. การนอนถอดเสื้อ
ที่นอนจะสัมผัสกับแผ่นหลังแทบจะตลอดเวลา หากเราไม่ได้มีการซักทำความสะอาดบ่อยนัก ทำให้สิ่งสกปรกอาจส่งผลให้เกิดสิวบนแผ่นหลังได้ และที่สำคัญควรพิจารณาเรื่อง ผลิตภัณฑ์ในการซักรีดผ้าปูและที่นอนด้วย หากยังต้องนอนถอดเสื้ออยู่
5. การเล่นกีฬาหรือการใช้ชีวิตกลางแจ้งบ่อยๆ
อากาศร้อน เหงื่อออกมาก เหงื่อมากแบคทีเรียก็เติบโตดี ยิ่งถ้ามีเหงื่อมากๆ และถูกซึมซับไว้ในเสื้อผ้า แผ่นหลังมักจะเกิดเป็นสิวอักเสบได้ง่ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกภาวะนึง ที่ทำให้เรามีอาการเหมือน เป็นสิวที่หลัง แต่จริงแล้วไม่ใช่สิว นั่นก็คือ รูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา หรือ บางทีเรียกว่า สิวเชื้อรา หรือ สิวยีสต์ ที่เรียกว่าสิว เพราะอาการคล้ายสิว นั่นเอง
สิวยีสต์ คืออะไร
สิวยีสต์ หรือ เรียกกันว่า สิวเชื้อรา แท้จริงแล้วเป็น ภาวะที่มีการอักเสบของรูขุมขนชนิดนึง ไม่ใช่สิว แต่ด้วยความที่อาการเป็นตุ่มคล้ายสิว จึงเรียกให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายขึ้น ว่าสิวนั่นเองค่ะ
ลักษณะสิวยีสต์ที่หลัง แตกต่างจากสิวปกติอย่างไร
- ไม่มีหัวสิวอุดตัน แตกต่างจากสิวแบบปกติ ที่จะเห็นเป็นหัวสิว
- มีลักษณะเป็นเม็ดผด (Papule) เล็กๆ ขนาดเท่าๆกัน
- เนื่องจากเป็นการอักเสบของรูขุมขน จึงมีอาการตุ่มบวมแดงหรือเป็นหนอง (Pustule) ร่วมด้วย ซึ่ง การอักเสบบวมแดงนี้จะสามารถเกิดได้ ทั้งสิวที่หลังแบบปกติที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย และสิวยีสต์ที่มีการติดเชื้อรา
- มักมีอาการคันที่หลัง โดยเฉพาะในช่วงที่เหงื่ออกมาก เช่น อากาศร้อน ออกกำลังกาย ซึ่งแตกต่างจาก สิวปกติที่ไม่ค่อยมีอาการคัน
สาเหตุของ สิวยีสต์ที่หลัง
เกิดจาก เชื้อราประเภทยีสต์ ที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า Malassesia Furfur ซึ่งเป็นเชื้อราประจำถิ่นที่อยู่บนผิวหนังของเราเป็นปกติอยู่แล้วโดยไม่ทำให้เกิดอาการใดๆ แต่ถ้ามีภาวะเสียสมดุลที่ผิว จะทำให้เชื้อตัวนี้มีจำนวนมากเกิน เป็นสาเหตุของการเกิด โรครูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา(Malassesia Folliculitis)หรือสิวยีสต์ขึ้นมาได้ นอกจากนี้เชื้อนี้ ยังทำให้เกิดโรคผิวหนังอื่นได้อีกค่ะ ได้แก่ เกลื้อน(Tinea) , รังแคอักเสบ(Seborrheic Dermatitis)
แล้วคงสงสัยใช่มั้ยคะ ว่าปกติเรามีเชื้อยีสต์ที่ผิวหนังอยู่ในปริมาณพอเหมาะ แล้วอะไรบ้างที่เป็นปัจจัย ทำให้มีการเสียสมดุลของเชื้อยีสต์ให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น จนเกิดภาวะ สิวยีสต์ ขึ้นมา
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดสิวยีสต์ ได้แก่
- คนที่เหงื่ออกง่าย ผิวมัน อากาศร้อน ซึ่งความอับชื้นจะมีผลต่อการเติบโตของเชื้อยีสต์ และบริเวณหลังเป็นตำแหน่งที่มีการระบายอากาศน้อย
- ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ใช้เกิดการอุดตันผิว เช่น ครีมทาผิว แชมพู สบู่ จึงทำให้มีการหมักหมมเชื้อยีสต์เติบโตง่ายขึ้น
- คนที่ทานยาปฏิชีวนะ หรือ ยากดภูมิคุ้มกัน เป็นเวลานาน จะมีการเสียสมดุลของภูมิคุ้มกันที่ผิวหนัง
เป็นสิวที่หลัง แล้วส่งผลอะไรบ้าง ต่อการดำเนินชีวิตและสุขภาพ ? ทำไมต้องรักษาสิวที่หลัง
สิวที่หลังถึงแม้เป็นบริเวณที่ไม่ค่อยมีใครมองเห็น แต่บางครั้งก็มีความจำเป็นที่ต้องโชว์ คงไม่มีใครอยากเปิดแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยสิวและรอยสิวจึงทำให้เสียความมั่นใจ ไม่ต่างจากการที่เป็นสิวที่หน้า ยิ่งสิวบนหลังของเราส่งผลให้เกิดอาการคัน อาการเจ็บจากสิวอักเสบ ก็ยิ่งทำให้เราทรมานในการใช้ชีวิต บุคคลิกภาพก็ไม่ดี อาจส่งผลให้มีปัญหาในการทำงานด้วย
วิธีรักษา สิวที่หลัง มีอะไรบ้าง?
อันดับแรก คือ หมอแนะนำว่าต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นการกระตุ้นให้เกิดสิว ตามที่หมอได้กล่าวถึงไว้แล้วข้างต้นค่ะ พบว่าถ้าเราดูแลตัวเองได้ดี โดยปรับพฤติกรรมต่างๆ สิวที่หลังก็มักจะทุเลาลงได้
แต่ถ้าหากลองทำแล้ว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว อาการของสิวขึ้นที่หลังยังไม่ดี อาจจะลองเริ่มจากรักษาด้วยตัวเองก่อน จะมีหลากหลายวิธีมากค่ะ แต่หมอขอแนะนำวิธีรักษาด้วยธรรมชาติที่สามารถทำได้ง่ายๆ แบบนี้
วิธีรักษาสิวบนแผ่นหลังด้วยธรรมชาติที่สามารถทำได้เองง่ายๆ
ลองพอกหลังด้วย ดินสอพองและมะนาว นำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลวๆ พอกให้ทั่วแผ่นหลัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยดินสอพองจะช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบและแห้งลง ส่วนน้ำมะนาวจะออกฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส และ ทำให้รอยสิวจางลง แต่ความยากในกรณีนี้ คือ การพอกบนแผ่นหลังและทำความสะอาดให้อาจจะอยากสำหรับหลายๆคน
การรักษาสิวที่หลังด้วยวิธีทางการแพทย์
การรักษาสิวที่หลัง มีโอกาสที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน อาจจะนานหลักหลายเดือน กว่าสิวและรอยจะดีขึ้น ยังไงก็ตาม ถ้าเราลองการรักษาด้วยตัวเองทุกวิธีมาแล้ว ยังไม่ค่อยดีขึ้น ไม่เห็นผล หรือ เป็นหนักกว่าเดิม หมอแนะนำให้รักษาโดยให้แพทย์เป็นผู้ดูแลจะดีกว่าค่ะ ซึ่งการรักษาโดยหลักทางการแพทย์ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่ ปลอดภัย มั่นใจ และ เห็นผลรวดเร็วชัดเจนกว่าค่ะ จะมันจะเป็นการแก้ไข ในแต่ละขั้นตอนของการเกิดสิว ตามหลักการที่ถูกต้อง โดยที่หมอทำการรักษา ก็จะประกอบด้วย
- ใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มยา มีทั้ง ยาทา ยารับประทาน
- ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ เช่น เลเซอร์ ฉายแสงบำบัด หรือ เครื่องผลักวิตามินผิว
การรักษาสิวที่หลัง ที่กัญวราคลินิก มีอะไรบ้าง
จะมีการรักษา 2 กลุ่ม ที่หมอแนะนำว่า สามารถรักษาร่วมกันได้ เพื่อให้เห็นผลได้เร็ว และชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
1. การรักษาโดยใช้ยา
2. โปรแกรมรักษาสิว
การรักษาสิวที่หลังโดยการใช้ยา
การใช้ยา คือ สิ่งที่เป็นพื้นฐานของ การรักษาสิวที่หลัง โดยหมอจะเป็นผู้ประเมินสาเหตุของการเกิดสิว และจ่ายยาตามสภาพปัญหาของแต่ละคนค่ะ ยาที่ใช้ก็จะมีดังนี้สบู่ ที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อรา ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยผลัดเซลล์ที่ตายเพื่อลดการอุดตัน เหมาะสมกับการฟอกทำความสะอาดหลังบริเวณที่เป็นสิวโดยเฉพาะ
- แป้งน้ำ ที่มีส่วนผสมของยารักษาสิวที่หลัง
- ยาทา จะมีส่วนผสมของ ยาฆ่าเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย
- ยาปฏิชีวนะ ชนิดรับประทาน สำหรับฆ่าเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย
- ยากิน ยาทา เพิ่มเติม ที่มีส่วนประกอบของอนุพันธ์ของวิตามินเอ
คลินิกรักษาสิวหายขาด ด้วยขั้นตอนโปรแกรมรักษาสิวโดยเฉพาะ
ใช้รักษาควบคู่กับการใช้ยา เพื่อทำให้ประสิธิภาพในการรักษาดีขึ้น เห็นผลเร็วขึ้น ที่กัญวราคลินิก หมอออกแบบโปรแกรมมาเพื่อให้ตอบโจทย์ตรงกับกลไกของการเกิดสิวที่หลังโดยเฉพาะ และ รักษาอย่างครอบคลุม ทุกขั้นตอนมีการคัดสรรเลือกผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่นำมาใช้จนหมอมั่นใจว่า “ดีที่สุด” ดังนี้ค่ะ
1. ผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยนและละลายการอุดตัน ด้วย Acne peel สูตรเฉพาะกัญวราคลินิก ที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ AHA และ Salicylic acid ช่วยละลายการอุดตันของรูขุมขน จะทำให้หัวสิวแห้ง และกดออกง่ายขึ้น พร้อมกับช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิวได้ด้วย
2. กดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเทคนิคกดละเอียด ไม่บวม ไม่อักเสบหลังกด เคลียร์สิวได้รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความต้องการอย่างเร่งด่วนในการเผยแผ่นหลัง
3. ฉายแสงสิวที่หลัง เป็นการรักษาด้วยแสงเลเซอร์แบบความเข้มข้นต่ำ ไปที่บริเวณที่มีปัญหาสิว สามารถใช้ทำการรักษากับสิวบนแผ่นหลังได้ ซึ่งมีงานวิจัยว่า มันจะมีผลกับผิวถึงในระดับเซลล์ โดยทำให้เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบลดลง จึงทำให้สิวอักเสบที่มีการบวมแดงลดลง และยังช่วยฟื้นฟูผิวให้มีการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้แผลสิวหายเร็วขึ้นค่ะ จึงช่วยรักษาสิวและลดการเกิดรอยแดง โดยไม่มีผลข้างเคียงและไม่ต้องพักฟื้น
ที่ กัญวราคลินิก ใช้เครื่องฉายแสง ยี่ห้อ Healite ที่มีมาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอเมริกา (US FDA approved) และ อย.ไทย ต่างจากเครื่องทั่วๆไปในตลาด (ที่อาจแค่ผ่าน อย.ไทย เพียงอย่างเดียว) การได้รับมาตรฐาน อย.อเมริกา เป็นการการันตีเรื่องผลทางการแพทย์ที่มีงานวิจัยรองรับทั่วโลก ทำให้มั่นใจเรื่องประสิทธิภาพในการรักษาสิวได้แน่นอนค่ะ สามารถช่วยรักษาสิวที่หลังอย่างเร่งด่วนได้ทันใจ ลดได้ทั้งสิวและรอยสิวเลยค่ะ
วิธีรักษาสิวที่หลังได้ใน 7 วัน เป็นไปได้หรือไม่ ?
สำหรับคนที่เป็นสิวที่หลังก็มักมีความจำเป็นหรือความต้องการให้สิวหายขาดจากแผ่นหลังของตนเองแตกต่างกันไป บางคนอยากเห็นผลแบบเร่งด่วน ต้องการรักษาสิวที่หลังให้หาย ภายใน 7 วัน จึงมีข้อสงสัยว่า ทำได้หรือไม่ หมอขอตอบว่า สามารถทำได้ แต่ได้ในกรณีที่ความรุนแรงของสิวน้อยมากๆ คือ สิวปริมาณน้อย หัวสิวอยู่ตื้น ขนาดหัวสิวเล็ก รอยสิวสีไม่เข้ม และ บริเวณที่เป็น มีพื้นที่แคบๆ และที่สำคัญที่สุด ถ้าอยากให้สิวที่หลังหายได้ใน 7 วัน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเชื่อฟังและทำการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษามาถูกทาง
รักษาสิวกี่ครั้งถึงเห็นผล ใช้เวลารักษานานแค่ไหน
ถ้ารักษาโดยวิธีทางการแพทย์ที่ หมอแนะนำ ผลที่ได้จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวและความต่อเนื่องในการรักษาด้วยค่ะ ซึ่งโดยทั่วไป หลังการรักษาครั้งแรกหรือ ประมาณ 7 วัน สิวและรอยจะค่อยๆ ดีขึ้น ประมาน 20-30% และ ถ้าได้มารักษาอย่างต่อเนื่อง ทุก 1-2 สัปดาห์ อาการจะดีขึ้นภายในช่วง 1-2 เดือนค่ะ
เป็น สิวที่หลัง แล้ว มีโอกาสลามไปเป็น สิวที่หัวไหล่ และ สิวที่หน้าอก ได้ไหม ?
มีหลายคนที่มักจะมี อาการสิวที่หลัง ร่วมกับ บริเวณอื่นตามร่างกาย ได้แก่ หน้าอก และหัวไหล่ ซึ่งอาการแบบนี้ ถือว่าเป็นสิ่งปกติค่ะ เพราะบริเวณ หน้าอก แผ่นหลัง และ หัวไหล่ เป็นพื้นที่ในร่มผ้า และมีต่อมไขมันกระจายอยู่ปริมาณมากกว่าแขนขา จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวได้แน่นอน
แต่สำหรับบางคนที่เป็นสิวที่หลังเพียงอย่างเดียวจะมีโอกาสที่สิวจะลามไปบริเวณอื่นได้หรือไม่ หมอต้องขอตอบก่อนว่า มีโอกาสเป็นไปได้ ถ้าไม่ได้จัดการเรื่องหลีกเลี่ยงสาเหตที่กระตุ้นให้เกิดสิวได้ตรงจุด และไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
อย่างเช่น ถ้าเราเป็นสิวที่หลัง มีสาเหตกระตุ้น คือ เหงื่ออกง่าย ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศ หากเราไม่ได้จัดการเคลียร์สิว ปรับพฤติกรรมการเลือกเสื้อผ้า การขยันอาบน้ำ ก็อาจไปกระตุ้นให้สิวลามไปที่หัวไหล่ได้เช่นกัน
หมอจึงแนะนำว่า เราควรรักษาตั้งแต่เริ่มเป็นแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้สิวลามไปที่อื่นๆ เพราะถึงตอนนั้น กว่าจะรักษาหายต้องใช้เวลาที่นานขึ้นอีก และ เสียงบประมาณในการรักษามากขึ้นด้วยนะคะ
ที่กัญวราคลินิก ช่วยรักษาสิวที่หลัง
- การดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านความงาม มามากกว่า 10 ปี ได้เจอคนไข้จำนวนมาก จึงทำให้ มีความเชี่ยวชาญเรื่องสิว โดยการรักษาของแพทย์จะไม่ได้เน้นที่การจ่ายยาและทำโปรแกรมรักษาให้หาย แต่จะดูแลไปถึงช่วยกันหาสาเหตุ แนะนำการปรับพฤติกรรม ซึ่งจะเป็นการช่วยในระยะยาวได้มากกว่า
- เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ มีความเชี่ยวชาญ ได้รับการอบรมความรู้จากแพทย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการรักษากับคนไข้ ได้สูงสุด
- เครื่องมือต่างๆ ที่ คลินิกใช้สำหรับรักษาสิว ผ่าน อย. มีมาตรฐานงานวิจัยว่าได้ผลการรักษาจริง
- ยา และ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ผ่านการคัดเลือกเพื่อให้เกิดผลดีที่สุดกับคนไข้ ไม่มีสารที่อันตรายกับผิว ผ่าน อย.
- เครื่องมือต่างๆ ที่ คลินิกใช้สำหรับรักษาสิว ผ่าน อย. มีมาตรฐานงานวิจัยว่าได้ผลการรักษาจริง
ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ จึงทำให้ กัญวราคลินิก ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้เสมอมาค่ะ
โปรโมชั่นคอร์สราคา รักษาสิวที่หลัง แบบเฉพาะทาง
การรักษาสิวที่หลัง ที่ กัญวราคลินิก โปรแกรม เริ่มต้นที่เห็นผลได้จริง ราคา จะอยู่ที่ประมาน 1,500 – 2,500 ต่อครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่เป็น และ จำนวนครั้งในการรักษาด้วยนะคะ
โปรแกรม คอร์สรักษาสิวที่หลัง Back Acne Heal จะมี 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย
- ผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยนและละลายการอุดตันด้วย Acne peel สูตรเฉพาะกัญวราคลินิก
- กดฉีดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ
- ฉายแสง Healite ลดการอักเสบ ลดรอยแดงรอยดำ
ราคารักษาสิวที่หลัง
ขนาดสิวไซส์เล็ก (S) | ขนาดสิวไซส์กลาง (M) | ขนาดสิวไซส์ใหญ่ (L) |
---|---|---|
ครั้งละ 1,500 | ครั้งละ 2,000 | ครั้งละ 2,500 |
คอร์ส 5 ครั้ง 5,000 | คอร์ส 5 ครั้ง 7,500 | คอร์ส 5 ครั้ง 10,000 |
ชีวิตดีขึ้นอย่างไร เมื่อสิวที่หลังหายขาด
ชีวิตดีขึ้นเยอะมากเลยตั้งแต่ตอนที่รักษาสิวที่หลังหายรู้สึกถึงความมั่นใจที่มีเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ใส่ได้ง่าย กล้าที่จะลองมากกว่าเดิม เมื่อก่อนเลือกใส่เสื้อผ้ายากมาก เพราะขาดความมั่นใจในตัวเอง บางตัวที่ต้องเปิดไหล่โชว์หลังให้เห็นนิดหน่อยเมื่อก่อนยอมรับเลยว่าไม่กล้าใส่เด็ดขาด หรือแค่เสื้อคอกว้างหน่อย ก็ไม่อยากใส่แล้ว
แต่ตอนนี้รู้สึกถึงความมั่นใจที่มีเพิ่มขึ้นมา สามารถเลือกเสื้อใส่ได้หลากหลายสไตล์มากขึ้น เวลาจะถ่ายรูปโพสลงโซเชียลก็รู้สึกว่ามันออกมาดีกว่าทุกครั้ง
ป้องกันสิวที่หลังไม่ให้กลับมาเป็นอีกได้อย่างไร
ชีวิตดีขึ้นเยอะมากเลยตั้งแต่ตอนที่รักษาสิวที่หลังหายรู้สึกถึงความมั่นใจที่มีเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ใส่ได้ง่าย กล้างที่จะลองมากกว่าเดิม เมื่อก่อนเลือกใส่เสื้อผ้ายากมาก เพราะขาดความมั่นใจในตัวเอง บางตัวที่ต้องเปิดไหล่โชว์หลังให้เห็นนิดหน่อยเมื่อก่อนยอมรับเลยว่าไม่กล้าใส่เด็ดขาด หรือแค่เสื้อคอกว้างหน่อย ก็ไม่อยากใส่แล้ว
แต่ตอนนี้รู้สึกถึงความมั่นใจที่มีเพิ่มขึ้นมา สามารถเลือกเสื้อใส่ได้หลากหลายสไตล์มากขึ้น เวลาจะถ่ายรูปโพสลงโซเชียลก็รู้สึกว่ามันออกมาดีกว่าทุกครั้ง
คนที่กำลัง มีสิวขึ้นที่หลัง และ กำลังเป็นกังวล ทำอย่างไรดี
พยายามล้างตัวให้สะอาด : ทุกครั้งที่เราต้องอาบน้ำ เราควรให้เวลากับการอาบน้ำมากขึ้น ใส่ใจรายละเอียดนิดหนึ่ง
ไม่ถอนเสื้อนอนเด็ดขาด : เพราะการที่หลังของเราสัมผัสกับผ้าปูโดยตรง มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดสิวได้ง่ายที่สุด
ไม่พยายามเอามือไปจับ : เกา ถู ไม่บีบ แกะ หรือแคะ สิวบริเวณหลังเด็ดขาด
ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสิวที่หลัง : เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหมาะกับสภาพผิวที่เหมาสม
สวมใส่เสื้อผ้าที่สบายตัว : ตามความจริงแล้ว การรักษาสิวที่หลังของเรามีรูปแบบเดียวกับการรักษาสิวบนใบหน้า กฎข้อสำคัญในการดูแลสิวนั้นก็คือการงด การบีบ แกะ หรือแคะ สิวบริเวณหลังเด็ดขาด เน้นผลิตภัณฑ์ดูแลสิวที่หลัง บอกไม่ได้อย่างเต็มปากว่าสิวที่หลงจะหายไปแบบถาวรเลย เพราะการเกิดสิวนั้นเป็นสิ่งที่ปกติ ซึ่งขั้นตอนที่เราแนะนำนั้น เป็นแบบที่เรียกกันวางช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ ทำให้สิวที่หลังดูจางลงเท่านั้นเอง
รักษาสิวที่หลังที่ไหนดี
สิวที่หลังเป็นปัญหาผิวพรรณที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ลักษณะของสิวจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน ส่วนใหญ่หลังจากเป็นสิวแล้วก็มักจะประสบกับปัญหารอยแผลจากสิวด้วย การรักษาสิวและรอยสิวให้หายจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แนะนำว่าให้รักษาสิวที่หลังกับคลินิกด้านผิวพรรณโดยตรง เพราะแพทย์จะช่วยประเมินลักษณะผิวของเรา ตรวจสอบความแข็งแรงของสภาพผิว และเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมที่สุดให้กับผิวของเราได้นั่นเอง
ที่กัญวราคลินิก เรามีบริการดูแลรักษาสิวที่หลังโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยดูแลผิวอย่างอ่อนโบย ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ละลายสิวอุดตัน จัดการปัญหาเชื้อสิว รักษาด้วยการฉายแสง ทำให้ผิวกลับมาเนียนใสได้อย่างสุขภาพดี
สำหรับใครที่อ่านข้อมูล แล้วมีปัญหาต้องการปรึกษาหมอ หรือสอบถามเพิ่มเติม
กัญวราคลินิก ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ใกล้กับซาฟารีเวิลด์ เดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ
- เปิดให้บริการ วันอังคาร ถึงศุกร์ 10.30-19.30 น.
- เสาร์ อาทิตย์ 10.00-18.00 น. หยุดทุกวันจันทร์
ช่องทางติดต่อ ตามด้านล่างนี้นะคะ