สิว เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยมากทั้งในช่วงของวัยรุ่น และวัยกลางคน นอกจากจะสร้างความรำคาญแล้ว ยังทิ้งรอยดำรอยแดงไว้บนใบหน้าอีกด้วย การรักษารอยสิวด้วยวิธีธรรมชาติอาจใช้เวลานานและได้ผลไม่ชัดเจน แถมยังเสี่ยงเกิดการแพ้จากสารเคมีได้อีก การเลเซอร์รอยสิวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา เนื่องจากสามารถช่วยกำจัดรอยดำรอยแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยให้ผิวหน้า รูขุมขนกระชับ ลดปัญหาหน้าหมองคล้ำให้กลับสดใสได้อีกครั้ง
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์รอยสิว
ก่อนทำเลเซอร์ รอยดำรอยแดงสิว ควรเตรียมตัวดังนี้
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำและประเมินสภาพผิว
- หยุดใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอหรือเรตินอลอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ เนื่องจากอาจทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น
- งดใช้เครื่องสำอางบริเวณที่จะทำเลเซอร์
- ล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับการรักษา
การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์รอยสิว
หลังทำเลเซอร์รอยสิว ควรดูแลตัวเองดังนี้
- ทายาหรือครีมตามที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำเลเซอร์
- หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือแสงแดดจ้า
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ข้อควรระวังในการทำเลเซอร์รอยสิว
การเลเซอร์รอยสิวอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น ผิวแห้ง ลอก แสบแดง บวม รอยดำใหม่ รอยไหม้ หรืออาการแพ้ ในกรณีที่มีอาการข้างเคียง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที
สรุป
การเลเซอร์รอยสิวเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดรอยดำรอยแดงจากสิว นอกจากเครื่องมือแพทย์ที่ช่วยให้รอยจางลงแล้ว คนไข้เองก็เป็นปัจจัยสำคัญ ควรเตรียมตัวดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอาการข้างเคียง
คำแนะนำเพิ่มเติม
นอกจากการเลเซอร์รอยสิวแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยดูแลรอยดำรอยแดงจากสิวได้ เช่น การทายารักษารอยสิว การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ (AHA/BHA) การฉีดสารเติมเต็ม และการจี้ด้วยเลเซอร์ CO2 เป็นต้น ทุกหัตกรรมทางการแพทย์ทั้งหมดที่พูดถึงข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลก่อนทุกครั้ง